เปิดลิสต์! ผ้าที่ห้ามเข้าเครื่องอบ เสี่ยงเกิดไฟไหม้ขณะอบ

• ผ้าบางชนิดไม่สามารถเข้าเครื่องอบผ้าได้ เนื่องจากเส้นใยอาจละลายหรือไหม้จากความร้อนสูง เช่น ผ้าที่มีส่วนผสมของพลาสติกหรือผ้าขนสัตว์ที่อาจหดตัวและเสียรูป เมื่อเข้าเครื่องอบผ้าผิดประเภทอาจทำให้ผ้าเสียหายได้
• การใช้เครื่องอบผ้าช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว แต่ผ้าบางชนิดเสี่ยงเกิดไฟไหม้ เช่น ผ้าร่ม ผ้าไนลอน หรือผ้าเครื่องหนัง เนื่องจากวัสดุที่ไวต่อความร้อนหรือสารเคลือบที่เสื่อมสภาพเมื่อโดนความร้อนสูง
• การเลือกโปรแกรมอบผ้าที่เหมาะสมกับประเภทผ้าจะช่วยถนอมเนื้อผ้าและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น โดยการแยกผ้าก่อนอบและตรวจสอบป้ายสัญลักษณ์จะช่วยให้เลือกโปรแกรมที่เหมาะสมและปลอดภัยได้
• Straits Laundry มีเครื่องซักผ้าคุณภาพดี มาตรฐานสูง ทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนทำธุรกิจร้านสะดวกซัก ลงทุนวันนี้ คุ้มค่าทุกการใช้งานในระยะยาว!

หลายคนอาจคิดว่าแค่ซักผ้าให้สะอาดแล้วโยนเข้าเครื่องอบก็จบ แต่รู้ไหม? ว่าไม่ใช่ผ้าทุกชนิดจะเหมาะกับการอบด้วยความร้อน เพราะบางเนื้อผ้าอาจหดตัว เสียรูป หรือถึงขั้นลุกไหม้ได้ เพื่อให้การอบผ้าของคุณทั้งสะดวกและปลอดภัย บทความนี้จะพาไปรู้จักกับผ้าที่ห้ามเข้าเครื่องอบเพราะเสี่ยงเกิดไฟไหม้สูง พร้อมเหตุผลและคำแนะนำดีๆ ที่ควรรู้ไว้ก่อนสายเกินแก้ ป้องกันทั้งผ้าเสียและเครื่องพังแบบไม่รู้ตัว!

[Image1]

สาเหตุที่ทำให้ผ้าบางชนิดห้ามเข้าเครื่องอบผ้า

เครื่องอบผ้าทำงานโดยการเป่าลมร้อนเข้าไปในถังอบ ซึ่งจะทำให้ความชื้นในผ้าระเหยออกไปจนผ้าแห้งเร็ว แต่ไม่ใช่ทุกประเภทของเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับอุณหภูมิและกระบวนการนี้ ผ้าแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่อาจจะไม่ทนต่อความร้อนหรือแรงดันในเครื่องอบผ้า จนทำให้ผ้าเสียรูปทรง หรือเกิดไฟไหม้ได้ จึงควรแยกประเภทผ้าให้ดีก่อนอบ เพื่อลดความเสี่ยงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน 

รวมประเภทผ้าที่ห้ามเข้าเครื่องอบ เสี่ยงเกิดไฟไหม้ขณะอบ

หลายคนอาจสงสัยว่าผ้าขนหนูอบแห้งได้ไหม? กางเกงยีนอบแห้งได้ไหม? มาดูกันว่าทำไมผ้าบางชนิดถึงไม่ควรเข้าเครื่องอบผ้า และสาเหตุหลักที่ทำให้การอบผ้าประเภทเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหาหรือความเสียหายได้

• ผ้าร่มหรือผ้ากันน้ำ – ผ้าที่มีวัสดุกันน้ำหรือเคลือบสารกันน้ำ เช่น เสื้อแจ็กเก็ตกันฝน เมื่อเข้าเครื่องอบผ้าอาจทำให้สารเคลือบนี้หลุดออกและทำให้ผ้าเสื่อมสภาพได้ และยังเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้จากความร้อนสูงเกินไป หากสงสัยว่าผ้าร่มอบได้ไหม? แนะนำให้ตากแห้งด้วยวิธีธรรมชาติจะดีต่อผ้าที่สุด
• ผ้าไนลอน ผ้าไหม และผ้าพอลิเอสเตอร์ – วัสดุพวกนี้สามารถหลอมละลายได้หากได้รับความร้อนสูงเกินไป โดยเฉพาะไนลอนอาจละลายและเกิดประกายไฟได้ หากสงสัยว่าผ้าซาตินอบได้ไหม? แนะนำให้ตากแห้งด้วยวิธีธรรมชาติจะเหมาะสมมากกว่า
• ผ้าที่มีซิปหรือโลหะ – ถ้าผ้าถูกเย็บติดกับซิปโลหะหรือส่วนที่มีโลหะ อาจทำให้เกิดประกายไฟจากการเสียดสีในเครื่องอบผ้า ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้
• ผ้าเครื่องหนังหรือผ้าเทียมที่มีการเคลือบ – ผ้าพวกนี้มักจะมีสารเคลือบที่อาจหลุดออกจากการอบผ้าและอาจก่อให้เกิดอันตรายจากความร้อนที่สะสมอยู่
• ผ้าที่มีสารเคลือบป้องกันไฟ – ผ้าบางชนิดจะเคลือบสารเพื่อป้องกันไฟ แต่เมื่อถูกความร้อนสูงจากเครื่องอบผ้า อาจทำให้สารเคลือบนี้มีปฏิกิริยาและทำให้เกิดการเผาไหม้ได้
• ผ้าที่มีสีเข้มหรือผ้าขนสัตว์ – บางครั้งผ้าที่มีสีเข้ม หรือผ้าขนสัตว์ อาจมีการดูดซับความร้อนมากกว่าผ้าปกติ ซึ่งอาจทำให้ผ้าคลายออกจากการอบและเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้
• ผ้าฝ้ายหรือผ้าขนหนูหนาๆ – ถ้าเป็นผ้าที่หนาหรือมีความหนาแน่นมาก เช่น ผ้าขนหนูหนาๆ อาจเกิดความร้อนสะสมในเครื่องอบผ้าจนเกิดไฟไหม้ได้
• ผ้าที่มีส่วนผสมของพลาสติก – เช่น เสื้อกันฝน หรือผ้าคลุมโต๊ะพลาสติก เมื่อโดนความร้อนจากเครื่องอบผ้า พลาสติกสามารถละลายได้และเสี่ยงต่อการติดไฟ นอกจากนี้ยังปล่อยกลิ่นและสารเคมีอันตรายออกมาได้

การเลือกผ้าเข้าเครื่องอบผ้าควรอ่านป้ายคำแนะนำที่ติดบนเสื้อผ้าทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเสียหายหรืออุบัติเหตุจากการใช้เครื่องอบผ้าอย่างไม่เหมาะสม

เคล็ดลับการอบผ้าให้เหมาะกับผ้าแต่ละประเภท

ทำความรู้จักกับวิธีอบผ้าให้เหมาะสมกับแต่ละประเภท เพื่อช่วยถนอมเนื้อผ้าและยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น

1. อ่านป้ายสัญลักษณ์จากเสื้อผ้าก่อนเสมอ

สังเกตรูปสัญลักษณ์วงกลมในสี่เหลี่ยมที่เป็นสัญลักษณ์สำหรับการอบผ้า

2. แยกชนิดผ้าก่อนอบ

การแยกผ้าก่อนอบเป็นขั้นตอนที่ง่ายแต่สำคัญ ที่จะช่วยป้องกันความเสียหายและถนอมผ้าให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น การแยกผ้าตามชนิดจะช่วยให้เลือกโปรแกรมอบที่เหมาะสมและลดความเสี่ยงจากการอบผ้าในเครื่องอบผ้าด้วยความร้อนที่ไม่เหมาะสมได้ โดยสามารถแยกได้ ดังนี้

• แยกผ้าหนาออกจากผ้าบาง
• แยกผ้าฝ้ายกับผ้าพอลิเอสเตอร์
• แยกผ้าสีออกจากผ้าขาว
• แยกผ้าที่ไม่ควรใส่ในเครื่องอบผ้า
• แยกเสื้อผ้าที่มีป้ายคำแนะนำว่าไม่ควรอบในเครื่องอบผ้า

3. เลือกโปรแกรมอบตามประเภทผ้า

ทำความรู้จักกับวิธีเลือกโปรแกรมอบผ้าให้เหมาะสมกับผ้าแต่ละประเภท เพราะการเลือกโปรแกรมอบที่เหมาะสมตามประเภทผ้าไม่เพียงแต่ช่วยให้ผ้าแห้งอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้าและรักษาคุณภาพของเนื้อผ้าไว้ให้นานที่สุด

• ผ้าฝ้าย (Cotton) โปรแกรมแนะนำคือ “Normal” หรือ “Cotton”

ผ้าฝ้ายทนทานต่อความร้อนได้ดีและสามารถอบด้วยโปรแกรม Normal หรือ Cotton ที่มีความร้อนปานกลางถึงสูง เพื่อให้แห้งเร็วและไม่เสียรูปทรง

• ผ้าบางเบา (Rayon, Polyester) โปรแกรมแนะนำคือ “Delicate” หรือ “Low Heat”

ผ้าบางเบา เช่น เรยอนหรือพอลิเอสเตอร์ต้องการการอบด้วยความร้อนต่ำ หรือโปรแกรม Delicate เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าหดตัวหรือเสียรูปจากความร้อนสูง

• ผ้าขนหนู (Towel) โปรแกรมแนะนำคือ “Heavy Duty” หรือ “Towel”

ผ้าขนหนูสามารถอบได้ด้วยโปรแกรม Heavy Duty หรือ Towel ที่มีความร้อนสูง เพื่อให้ผ้าแห้งอย่างทั่วถึงและนุ่มฟู แต่ต้องตรวจสอบฟิลเตอร์เครื่องอบผ้าเพื่อป้องกันการสะสมของขุยผ้าด้วย

• ผ้าขนสัตว์ (Wool) โปรแกรมแนะนำคือ “Wool” (เฉพาะรุ่นที่รองรับ)

ผ้าขนสัตว์ต้องการการอบด้วยโปรแกรม Wool ที่มีอุณหภูมิอ่อนโยน เพื่อไม่ให้เส้นใยหดตัวหรือเสียรูป แต่ไม่ใช่ทุกรุ่นของเครื่องอบผ้าที่รองรับโปรแกรมนี้ จึงควรตรวจสอบก่อนใช้งานด้วย

• ผ้าไหม (Silk) โปรแกรมแนะนำคือ “Air Dry” หรือ “Low Heat”

ผ้าไหมเป็นผ้าที่ไวต่อความร้อน ควรเลือกโปรแกรม Air Dry หรือ Low Heat เพื่อลดความเสี่ยงในการทำลายเส้นใย และช่วยให้ผ้าไหมแห้งโดยไม่เสียรูป

• ชุดชั้นใน (Underwear) โปรแกรมแนะนำคือ “Delicate + ถุงตาข่าย”

ชุดชั้นใน กางเกงในที่ทำจากวัสดุอ่อนนุ่ม ควรอบด้วยโปรแกรม Delicate และใช้ถุงตาข่ายเพื่อป้องกันไม่ให้ชุดชั้นในเสียหายจากการเสียดสีหรือถูกทำลายจากการหมุนในเครื่องอบผ้า

สรุป

การใช้เครื่องอบผ้าอาจเสี่ยงทำให้ผ้าเกิดความเสียหายหรือไฟไหม้หากเลือกอบผ้าผิดประเภท ผ้าที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ผ้าร่มหรือผ้ากันน้ำ ผ้าไนลอนและพอลิเอสเตอร์ ผ้าที่มีซิปโลหะหรือวัสดุโลหะ ผ้าเครื่องหนัง และผ้าขนสัตว์หรือผ้าฝ้ายหนาๆ เพราะเสี่ยงต่อการหดตัวหรือไหม้ได้ นอกจากนี้ การเลือกโปรแกรมอบที่เหมาะสมกับแต่ละประเภทผ้าก็ช่วยถนอมผ้าและยืดอายุการใช้งานได้เช่นกัน

Straits Laundry นำเสนอเครื่องซักผ้าคุณภาพสูง ทั้งในเรื่องของแบบและขนาดที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ประกอบการ ช่วยให้การวางแผนจัดร้านและออกแบบพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่ม