- เมื่อซักผ้านวมเสร็จจะพบว่าผ้านวมนั้นทั้งหนาและหนัก ทำให้แห้งช้ากว่าเครื่องนอนอื่นๆ ซึ่งการอบผ้านวมนั้นมีข้อดี เพราะช่วยไม่ให้เกิดความชื้นและมีเชื้อราสะสมในผ้าห่ม ทั้งยังช่วยคงสภาพของผ้านวมได้ดีด้วย
- การอบผ้านวมต้องอบที่อุณหภูมิเท่าไร? ควรอบอยู่ที่อุณหภูมิ 60 – 70 องศาเซลเซียส หรือระดับความร้อนต่ำ – ปานกลาง เพื่อคงสภาพของผ้านวมและฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- วิธีอบผ้านวม นอกจากการใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับผ้านวมแล้ว ยังมีการใช้ลูกบอลอบผ้า การกลับด้านผ้านวมระหว่างใช้เครื่องอบผ้านวมและหมั่นเช็กความแห้งของผ้านวมอยู่เสมอ
ผ้านวมเป็นตัวช่วยเพิ่มความอบอุ่นและความสบายในการนอน แต่เมื่อต้องนำไปทำความสะอาดหลายคนมักละเลยหรือคิดหนักว่าควรซักผ้านวมอย่างไร ควรอบผ้านวมในอุณหภูมิเท่าไรจึงจะช่วยรักษาสภาพของผ้านวมและยืดอายุการใช้งานของผ้านวมได้ดีที่สุด บทความนี้จะแนะนำวิธีอบผ้านวม ผ้าห่มขนาดต่างๆ อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการอบผ้านวม และแนะนำเครื่องอบผ้านวมที่เหมาะสำหรับการใช้อบผ้านวมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เหตุผลทำไมต้องอบผ้านวม?
ผ้านวมเป็นผ้าที่มีไส้ด้านในเป็นใยสังเคราะห์ ขนเป็ด ขนห่าน หรือไมโครไฟเบอร์ ที่มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความร้อนและเพิ่มความอบอุ่นในเวลานอน โดยขนาดของผ้านวมมักมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 5 ฟุต 6 ฟุตเป็นต้นไปขึ้นอยู่กับขนาดของเตียง
เนื่องจากผ้านวมมีขนาดใหญ่ หนา และหนัก ทำให้เมื่อซักแล้วจะแห้งช้ากว่าชุดเครื่องนอนอื่นๆ ดังนั้น การอบผ้านวมให้แห้งสนิทจึงช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ได้ดังนี้
- ป้องกันความชื้นและการสะสมของเชื้อรา เนื่องจากผ้านวมเป็นผ้าชิ้นใหญ่และหนา จึงต้องใช้เวลานานในการผึ่งให้แห้ง หากตากไม่ถูกวิธีหรืออุณหภูมิไม่เหมาะสม ก็อาจเกิดเชื้อราหรือความชื้นสะสมในผ้านวมได้
- ลดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ การอบผ้านวมนอกจากจะทำให้ผ้านวมแห้งแล้ว การอบด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยกำจัดไรฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ และเชื้อโรคที่อาจอยู่ในผ้าได้
- ช่วยคงสภาพและความนุ่มของผ้านวม การอบจะช่วยให้ไส้ผ้านวมกระจายตัว คงสภาพเดิม ป้องกันการจับตัวเป็นก้อน และความร้อนจากเครื่องอบจะช่วยให้ผ้านวมกลับมานุ่มฟู พร้อมใช้งาน

เลือกอุณหภูมิอบผ้านวม ควรเลือกที่อุณหภูมิเท่าไร?
อุณหภูมิที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อผ้า หากใช้เครื่องอบในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผ้านวมเสียหายหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ แล้วควรอบผ้านวมที่อุณหภูมิเท่าไร? อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับอบผ้านวมอยู่ที่ 60 – 70 องศาเซลเซียส หรือเลือกระดับความร้อนต่ำ – ปานกลาง
ถ้าเลือกอุณหภูมิไม่เหมาะสมจะเกิดอะไรขึ้น?
ในการอบผ้านวม การเลือกอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเลือกอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไปอาจส่งผลเสียต่อผ้านวมได้ ดังนี้
การอบผ้าในอุณหภูมิที่สูงเกินไป
- ทำให้เส้นใยผ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ผ้านวมอาจหดตัว
- ไส้ผ้านวมจับตัวเป็นก้อน
- ผ้าหุ้มนวมเสียหาย เช่น สีซีด ผ้าเปื่อย
การอบผ้าในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไป
- ผ้ายังคงมีความชื้น
- อาจเกิดกลิ่นอับ
- เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา
- ก่อให้เกิดไรฝุ่นมากขึ้น และไม่สามารถกำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวังก่อนใช้เครื่องอบผ้านวม
- หลีกเลี่ยงการอบด้วยความร้อนที่สูงเกินไป เพราะอาจทำให้ผ้าหดตัวหรือเสื่อมสภาพเร็ว
- ก่อนนำผ้านวมเข้าเครื่องอบ ตรวจสอบป้ายดูแลผ้านวมทุกครั้งก่อนอบ เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิที่เลือกใช้นั้นเหมาะสมกับผ้านวมแล้ว
- เลือกโหมดอบลมเย็นหรืออบลมร้อนคุณภาพต่ำ เพื่อช่วยถนอมผ้า

วิธีอบผ้านวมให้แห้งสนิท ไร้กลิ่นอับ
แนะนำเทคนิคอบผ้านวมอย่างไรให้แห้งสนิท ปลอดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ พร้อมคืนความนุ่มฟูเหมือนใหม่ให้กับผ้านวม มีดังนี้
ใช้เครื่องอบที่เหมาะสมกับผ้านวม
ควรเลือกเครื่องอบผ้าที่มีขนาดใหญ่เพียงพอกับผ้านวม เพื่อให้ผ้านวมสามารถหมุนเวียนอากาศภายในเครื่องอบได้ดี ตัวอย่างเช่น หากเราต้องการอบผ้านวมขนาด 6 ฟุต ควรเลือกเครื่องอบขนาด 14 กิโลกรัมขึ้นไป จึงจะสามารถรองรับการอบผ้านวม 6 ฟุตได้
นอกจากการเลือกขนาดเครื่องอบให้เหมาะสมกับผ้านวมแล้ว การเลือกโหมดในการอบผ้าก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยใช้โหมดอบลมร้อนในความร้อนที่เหมาะสม หรือเลือกโหมดอบแห้งอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงในการทำลายเส้นใยของผ้านวม
ใช้ลูกบอลอบผ้าช่วยเพิ่มความฟู
แนะนำใส่ลูกบอลอบผ้าหรือลูกเทนนิสสะอาดลงไปในเครื่องอบ เพื่อช่วยกระจายความร้อนและไม่ให้ไส้ผ้านวมจับตัวเป็นก้อน
อย่าลืมกลับด้านผ้านวมระหว่างอบ
ควรหยุดการทำงานของเครื่องอบ แล้วกลับผ้านวมและตบผ้านวมเบาๆ ถ้าผ้านวมม้วนเป็นก้อนให้คลายก่อน และเอาเข้าเครื่องอบต่อ การกลับผ้านวมจะช่วยให้ความร้อนกระจายทั่วถึงได้ดียิ่งขึ้น
เช็กความแห้งของผ้านวมก่อนนำไปใช้งาน
หลังอบผ้านวมเสร็จ ลองจับผ้านวมและดมกลิ่นเพื่อเช็กความชื้นหรือเช็กว่ามีกลิ่นอับหรือไม่ ถ้ามีก็ควรอบต่อ 10 – 15 นาทีก่อนนำไปใช้งาน

แนะนำเครื่องอบผ้าที่เหมาะสำหรับอบผ้านวม
มาแนะนำเครื่องอบผ้าที่เหมาะสมสำหรับอบผ้านวม
เครื่องอบผ้า Single Tumble Dryer ST055
เครื่องอบผ้า Single Tumble Dryer ST055 เครื่องอบผ้ารุ่นนี้มีความจุ 25 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการอบผ้าขนาดกลาง ช่วยให้จัดการกับปริมาณผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมระบบควบคุมด้วยจอทัชสกรีนที่ใช้งานง่าย เลือกโปรแกรมและตั้งค่าได้สะดวกรวดเร็ว เครื่องอบผ้ารุ่นนี้ยังได้รับการออกแบบให้ประหยัดพลังงาน บำรุงรักษาและทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับธุรกิจซักรีดมากๆ
เครื่องอบผ้า Stack Tumble Dryer STT45
เครื่องอบผ้า Stack Tumble Dryer STT45 เครื่องอบผ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับความจุ 20 กิโลกรัม เป็นเครื่องอบคู่ สามารถอบผ้าปริมาณมากได้ในครั้งเดียว ทำให้ประหยัดเวลาในการอบมากขึ้น เครื่องอบรุ่นนี้มีระบบควบคุมด้วยปุ่มกดที่ใช้งานง่าย สามารถเลือกโปรแกรมการอบและตั้งค่าได้สะดวกรวดเร็ว มีโครงสร้างทนทานต่อการใช้งาน ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย รุ่นนี้เหมาะสำหรับธุรกิจซักรีดที่ต้องการการอบผ้าที่มีคุณภาพและอบผ้าได้รวดเร็ว
ดูแลผ้านวมอย่างไรให้ใช้งานได้นาน
การดูแลผ้านวมให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ขั้นตอนการซักก่อนนำไปอบเลย การซักผ้าห่มหรือผ้านวมให้สะอาดควรเริ่มจากการเลือกน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน เพื่อช่วยรักษาคุณภาพของเนื้อผ้า และปั่นแห้งเพื่อลดความชื้นก่อนนำไปอบ
จากนั้นเมื่อผ้านวมผ่านการอบแล้ว ควรตากผ้านวมในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกให้ผ้านวมแห้งก่อนเก็บ และควรใช้ถุงเก็บผ้านวมที่สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันความชื้นสะสมและป้องกันการเกิดเชื้อรา เพียงเท่านี้ผ้านวมก็จะคงความนุ่มสบายและใช้งานได้นานขึ้น

สรุป
การอบผ้านวมนั้น หากมองเผินๆ อาจมองว่าสิ้นเปลือง แต่จริงๆ แล้วการอบผ้านวมช่วยให้เราประหยัดเวลาในการรอผ้าแห้ง ทั้งยังมีประโยชน์ในเรื่องของการลดไรฝุ่น ลดเชื้อรา ลดสารก่อภูมิแพ้และคงสภาพผ้านวมได้ ซึ่งการใช้เครื่องอบผ้าควรเลือกโหมดให้เหมาะสมกับขนาดของผ้านวม เพื่อให้ผ้านวมแห้งทั้งผืน เป็นการทำให้ผ้านวมมีความนุ่มฟู ใช้งานได้นานขึ้น และมีกลิ่นหอมไร้กลิ่นอับหากสนใจเครื่องอบผ้า Straits Laundry มีหลายแบบเพื่อตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาเครื่องอบผ้าขนาด 14 กิโลกรัมขึ้นไป เหมาะสำหรับทุกความต้องการ ไม่ว่าจะธุรกิจร้านซักรีดขนาดไหน
FAQ:
การอบผ้านวมอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผ้านวมแห้งเร็วและไม่เสียหาย แต่ก็ต้องระมัดระวังในการเลือกอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อให้ผ้านวมของคุณคงทนและสะอาด ใช้งานได้ยาวนาน
1. อบผ้านวมที่อุณหภูมิเท่าไรดี?
🌡️ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการอบผ้านวมคือ 50-60 องศาเซลเซียส
✅ การอบที่อุณหภูมิที่ต่ำเกินไปอาจทำให้ผ้านวมไม่แห้งสนิท และเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา
✅ หากอบที่อุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้วัสดุของผ้านวมเสียหาย เช่น ฟอยล์หรือวัสดุสังเคราะห์ที่ใช้ทำผ้านวมอาจหดตัวหรือแตกหักได้
💡 Tip: ตรวจสอบคำแนะนำจากผู้ผลิตผ้านวมเพื่อความปลอดภัยในการอบผ้า
2. ควรใช้เวลาอบผ้านวมกี่นาที?
⏱️ เวลาอบผ้านวมประมาณ 60-90 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาของผ้านวมและอุณหภูมิที่เลือกใช้
✔️ หากผ้านวมหนามากอาจต้องใช้เวลาอบนานกว่าผ้านวมบาง
✔️ ควรเปิดเครื่องอบผ้าตามระยะเวลาที่แนะนำและตรวจสอบผ้านวมอย่างสม่ำเสมอ
💡 Tip: อย่าอบผ้านวมในเครื่องอบผ้านานเกินไป เพราะอาจทำให้วัสดุหดหรือเสียหาย
3. เทคนิคดูแลผ้านวมให้ใช้งานได้นาน?
🧺 ซักผ้านวมอย่างอ่อนโยน – ใช้น้ำอุณหภูมิไม่สูงเกินไป และเลือกโหมดซักผ้าที่อ่อนโยนสำหรับผ้านวม
🧴 ใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเฉพาะสำหรับผ้านวม – เลือกน้ำยาซักผ้าที่ช่วยปกป้องเนื้อผ้าและไม่ทำให้ผ้านวมเสียรูป
⚖️ ห้ามใส่ผ้านวมในเครื่องซักผ้ารวมกับเสื้อผ้าหนัก – เพื่อป้องกันการเสียรูปและทำให้การซักล้างไม่สะอาดทั่วถึง
🌬️ อบผ้านวมในที่มีการระบายอากาศ – หากไม่ใช้เครื่องอบผ้า ควรตากผ้านวมในที่มีอากาศถ่ายเทดี เช่น บริเวณกลางแจ้ง
💡 Tip: ควรปัดฝุ่นหรือทำความสะอาดผ้านวมด้วยการตีเบาๆ ก่อนนำไปซัก เพื่อให้การซักทำได้ง่ายขึ้น
4. ควรดูแลผ้านวมบ่อยแค่ไหน?
💡 แนะนำให้ซักผ้านวมทุก 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น หากใช้ผ้านวมในช่วงฤดูหนาวที่ต้องคลุมผ้าทุกคืน อาจต้องซักบ่อยขึ้น
🛏️ หากผ้านวมใช้ในที่นอนที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องนอนที่ไม่มีการระบายอากาศดี ควรพิจารณาซักให้บ่อยขึ้นเพื่อป้องกันเชื้อรา
💡 Tip: ใช้ผ้าคลุมผ้านวมเพื่อป้องกันการเปื้อนและลดความถี่ในการซัก
5. วิธีทำให้ผ้านวมมีความหอมและนุ่มนานขึ้นหลังการอบ?
🌺 ใช้ปรับผ้านุ่มสูตรพิเศษ – เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีสารให้กลิ่นหอมยาวนาน
💨 ใช้ลูกบอลซักผ้า – ใส่ลูกบอลซักผ้าในเครื่องอบผ้าเพื่อช่วยให้ผ้านวมไม่จับตัวเป็นก้อน
🌞 ตากผ้านวมในแดด – การตากผ้านวมในแสงแดดไม่เพียงแค่ช่วยให้แห้งเร็ว แต่ยังช่วยกำจัดกลิ่นอับ
💡 Tip: หากต้องการผ้านวมที่นุ่มและหอมมากขึ้น แนะนำให้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของสารบำรุงเนื้อผ้า
การอบผ้านวมที่อุณหภูมิ 50-60 องศาเซลเซียสและการใช้เวลาอบประมาณ 60-90 นาทีจะช่วยให้ผ้านวมแห้งสนิทและคงทนมากขึ้น หากดูแลผ้านวมอย่างดี โดยการซักและอบอย่างระมัดระวัง จะช่วยให้ผ้านวมของคุณใช้งานได้นานและคงความสะอาดหอมสดชื่นได้เสมอ