Blog

ซักผ้าห่มแบบไหนที่ช่วยให้สะอาด หอม นุ่ม แห้งไว และไม่ทำลายเนื้อผ้า

การซักผ้าห่ม
  • ก่อนซักผ้าห่มควรรู้จักประเภทของผ้าห่ม เลือกน้ำยาซักสูตรเข้มข้น ทำความสะอาดคราบเฉพาะจุด และแช่น้ำอุ่นก่อนซัก
  • เคล็ดลับในการซักผ้าห่ม เช่น ม้วนให้ผ้าเล็กลง ตั้งโปรแกรมให้ถูกต้อง ซักด้วยน้ำเย็น และไม่ซักร่วมกับเครื่องนอนอื่นๆ
  • Straits Laundry มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าคุณภาพสูงที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจร้านสะดวกซัก ช่วยให้ร้านซักผ้าสามารถให้บริการลูกค้าที่ต้องการซักผ้าห่มได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

การซักผ้าห่มหรือผ้านวมให้มีกลิ่นหอม เนื้อผ้านุ่ม ไม่เป็นก้อน แห้งไว เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ แต่การดูแลผ้าเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก หากใช้วิธีการซักที่ถูกต้อง การเลือกเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเนื้อผ้า จะช่วยรักษาคุณภาพของผ้าให้นุ่มและมีกลิ่นหอมอย่างยาวนานได้

ข้อควรรู้ก่อนซักผ้าห่มและผ้านวมให้สะอาด ไม่เสียทรง

ข้อควรรู้ก่อนซักผ้าห่มและผ้านวมให้สะอาด ไม่เสียทรง

การเตรียมผ้าห่มและผ้านวมก่อนซักเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ผ้าห่มสะอาด นุ่ม และมีกลิ่นหอม โดยไม่เกิดปัญหาผ้าเป็นก้อนและยังคงรักษาคุณภาพของเนื้อผ้าไว้ได้ โดยสามารถการจัดเตรียมผ้าให้พร้อมก่อนการซัก ดังนี้

ทำความรู้จักประเภทผ้าห่มหรือผ้านวม แบบไหนควรซักอย่างไร?

สิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือการตรวจสอบประเภทของผ้านวม เพราะผ้าห่มแต่ละชนิดต้องการวิธีการดูแลที่แตกต่างกัน เช่น หากผ้าห่มหรือผ้านวมทำจากขนเป็ด การซักในเครื่องซักผ้าปกติอาจทำให้ผ้าเกิดปัญหาจับตัวเป็นก้อนภายใน และผ้าด้านนอกอาจเกิดคราบด่างหรือที่เรียกว่า “ด่างน้ำ” ซึ่งจะเห็นชัดเจนเมื่อผ้าแห้ง 

ดังนั้นควรนำผ้านวมขนเป็ดไปซักแห้งที่ร้านซักรีดที่มีความชำนาญในการทำความสะอาดผ้าห่มและผ้านวมขนเป็ด เพื่อลดความเสี่ยงจากการเสียหาย

เช็กก่อนซัก ผ้าห่มใส่เครื่องซักผ้าได้ไหม?

การซักผ้าห่มที่สะดวกที่สุดคือซักด้วยเครื่องซักผ้า แต่ควรระวังไม่ให้ปั่นเกิน 5 นาที เพราะอาจทำลายเนื้อผ้า หากกังวลให้ซักมือ โดยแช่ผ้าห่ม 15 นาที ขยำเบาๆ แล้วล้างน้ำเย็น 2 ครั้ง บีบออกเบาๆ ห้ามบิดแรง ส่วนผ้าห่มขนาด 6 ฟุต ควรซักในเครื่องที่มีความจุ 6 กิโลกรัมขึ้นไป เพื่อให้ซักได้ดีและไม่เสียรูปทรง

เลือกน้ำยาซักผ้าสูตรเข้มข้น ช่วยให้ผ้าห่มหอมสะอาดและนุ่มขึ้น

การซักผ้านวมควรใช้น้ำยาซักผ้าสูตรเข้มข้นที่สามารถขจัดคราบได้อย่างล้ำลึกและช่วยป้องกันเนื้อผ้าจับตัวเป็นก้อน น้ำยาซักผ้าละลายในน้ำได้ดีกว่าผงซักฟอก ทำให้สามารถขจัดคราบ ฝุ่น และเชื้อโรคได้ทั่วถึง โดยไม่ทิ้งคราบตกค้าง อีกทั้งยังมีสูตรสำหรับฆ่าเชื้อโรคและลดกลิ่นอับ ช่วยให้ผ้านวมสะอาด นุ่ม และหอมสดชื่นหลังซัก

ซักคราบฝังลึกเฉพาะจุด ให้ผ้าห่มสะอาด ไร้รอย

หากผ้าห่มมีคราบสกปรก ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ควรรีบกำจัดก่อนซักทั้งผืน เพราะหากปล่อยไว้นานคราบอาจฝังแน่นและล้างออกยาก โดยเฉพาะคราบหมึก เลือด และคราบมันจากอาหาร ที่ควรทำความสะอาดทันที วิธีขจัดคราบเฉพาะจุดทำได้ง่ายๆ เพียงผสมน้ำยาซักผ้าห่มกับน้ำอุ่น แล้วเทลงบนคราบ ทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นขยี้เบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ทำซ้ำจนกว่าคราบจะจางลงมากที่สุด

แช่น้ำอุ่นให้ผ้าห่ม ผ้านวมนุ่มฟู และหอมสะอาด

ควรแช่ผ้าห่มหรือผ้านวมในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียสหรือน้ำร้อนก่อนซักจริง ทิ้งไว้ 15 – 30 นาที เพื่อช่วยขจัดเชื้อโรค เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้น้ำยาซักผ้าซึมเข้าสู่เนื้อผ้าได้ดีขึ้น และกระจายสารทำความสะอาดได้ทั่วถึง 

หลังการซักผ้าห่มหรือผ้านวมจะมีกลิ่นหอมสะอาดและสีสดใสขึ้น หากต้องการให้น้ำยาปรับผ้านุ่มติดทนนาน ควรใช้วิธีแช่น้ำอุ่นก่อนซัก เพื่อช่วยให้กลิ่นติดทนหลายวัน

เคล็ดลับการซักผ้าห่มที่ช่วยให้ผ้าห่มนุ่ม หอมสะอาด

เคล็ดลับการซักผ้าห่มที่ช่วยให้ผ้าห่มนุ่ม หอมสะอาด

วิธีซักผ้าห่มและผ้านวมอย่างถูกต้องช่วยให้เนื้อผ้าสะอาดหมดจด ยืดอายุการใช้งาน และคงความนุ่มสบายได้นาน มาดูวิธีการซักที่เหมาะสมเพื่อให้ผ้าห่มและผ้านวมของคุณสะอาด หอม และไม่เสียรูปทรงกัน

ม้วนผ้าห่มก่อนใส่ลงเครื่อง ให้ผ้าห่มสะอาดทั่วถึง

ม้วนผ้าห่มก่อนใส่ลงเครื่อง ให้ผ้าห่มสะอาดทั่วถึง

การซักผ้าห่มหรือผ้านวมด้วยเครื่องซักผ้าควรม้วนผ้าให้เล็กที่สุดก่อนใส่ลงถังซัก เพื่อประหยัดพื้นที่และช่วยให้น้ำยาซักผ้ากระจายทั่วถึง หากใส่ผ้าลงไปแบบไม่เป็นระเบียบหรือขยำรวมกัน อาจทำให้น้ำยาซักกระจุกอยู่บางจุด ส่งผลให้ผ้าไม่สะอาดและเกิดกลิ่นอับจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ หากเครื่องซักผ้าไม่ได้รับการทำความสะอาดสม่ำเสมอ คราบสกปรกที่ตกค้างอาจกลับมาติดบนผ้าหลังซักได้ง่ายขึ้น

เซตโปรแกรมซักให้ถูก ผ้าห่มสะอาดแบบมือโปร

เซตโปรแกรมซักให้ถูก ผ้าห่มสะอาดแบบมือโปร

เมื่อแช่ผ้าห่มเสร็จแล้วไม่ควรตั้งเวลาซักนานเกินไป เพราะอาจทำให้เนื้อผ้าหดตัวและเสียหาย หลายคนเข้าใจผิดว่าการซักนานขึ้นจะทำให้ผ้าสะอาดขึ้น แต่จริงๆ แล้วอาจส่งผลเสียต่อเนื้อผ้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อโรคในถังซัก 

ปัจจุบันเครื่องซักผ้าอัตโนมัติหลายรุ่นมีโหมดซักผ้าห่มโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยตั้งเวลาซักอย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาผ้าเสียรูปและช่วยให้ซักสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อยากให้ผ้านวมสะอาด ลองซักด้วยน้ำเย็น

การซักผ้าห่มด้วยน้ำอุ่นอาจทำให้มีสารตกค้างบนเนื้อผ้า เช่น ผงซักฟอกหรือน้ำยาต่างๆ ดังนั้น ควรใช้น้ำเย็นแทน เพื่อล้างสารตกค้างออกได้หมดจด ทำให้ผ้าห่มสะอาด ปราศจากสิ่งตกค้าง และปลอดภัยต่อผิวมากขึ้น

แยกซักเครื่องนอนกับผ้าห่ม ให้สะอาดเนี้ยบ

หลายคนอาจเคยซักผ้าห่มรวมกับปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน หรือเครื่องนอนอื่นๆ แต่จริงๆ แล้ววิธีนี้ไม่ควรทำ เพราะอาจทำให้ผ้าห่มมีกลิ่นอับได้ง่าย เนื่องจากเครื่องนอนบางชิ้น เช่น ปลอกหมอน อาจมีกลิ่นแรงและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย เมื่อนำมาซักรวมกันอาจทำให้ผ้าห่มสะสมเชื้อโรคและไม่สะอาดเท่าที่ควร

นอกจากนี้ ผ้าห่มมีขนาดใหญ่และเนื้อผ้าหนา หากซักรวมกับเครื่องนอนหลายชิ้นอาจทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักเกินไปและเสี่ยงต่อความเสียหาย อีกทั้งหากใช้ผงซักฟอกอาจทำให้เกิดคราบตกค้างและกลิ่นอับหลังซักเสร็จ ดังนั้น ควรซักผ้าห่มแยกต่างหากเพื่อความสะอาดและยืดอายุการใช้งานของทั้งผ้าห่มและเครื่องซักผ้า

วิธีตากผ้าห่มที่ใช่ แห้งไว หมดปัญหากลิ่นอับ

วิธีตากผ้าห่มที่ใช่ แห้งไว หมดปัญหากลิ่นอับ

ผ้าห่มและผ้านวมมีขนาดใหญ่กว่าผ้าทั่วไป จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการตากให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันกลิ่นอับและเชื้อรา โดยมีวิธีตากที่ควรทำ ดังนี้

คลายผ้าห่ม ผ้านวมให้ดี ตากทีเดียวแห้งสนิท

หลังจากซักผ้าห่มหรือผ้านวมเสร็จแล้ว ไม่ควรนำผ้านวมขึ้นตากทันที แต่ควรสะบัดผ้าและคลายเนื้อผ้าออกก่อน เพื่อช่วยลดความยับและทำให้ผ้าคลายตัว การทำเช่นนี้จะช่วยกระจายเนื้อในผ้านวมให้แผ่กว้าง ลดปัญหาผ้านวมจับตัวเป็นก้อนและทำให้แห้งเร็วขึ้น 

หากนำผ้านวมขึ้นตากทันทีโดยไม่สะบัด เนื้อผ้านวมอาจรวมตัวเป็นก้อน ทำให้แห้งยากและเกิดกลิ่นเหม็นอับได้แม้จะตากกลางแดด

ตากผ้าห่มในที่อากาศถ่ายเทหรือแดดจ้า 

หลังจากซักผ้าห่มเสร็จแล้วควรสะบัดและคลายเนื้อผ้าห่มบนราวตากให้เรียบร้อย แล้วนำไปตากกลางแดดประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง โดยเลือกแดดที่ไม่แรงเกินไป เช่น หน้าบ้าน เพื่อฆ่าเชื้อและป้องกันการเกิดกลิ่นไหม้ 

คอยสังเกตแดด ถ้าเริ่มแรงเกินไปหลังเที่ยงให้ย้ายผ้าไปตากในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเทสะดวก การตากกลางแดดที่ไม่ร้อนเกินไปจะช่วยให้ไม่ทำลายเนื้อผ้าและคงกลิ่นหอมของน้ำยาซักและน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ดี หลังผ้าห่มเริ่มแห้งควรพลิกผ้าและตากอีกด้านเพื่อให้แห้งเร็วขึ้น

cta2

สรุป

การซักผ้าห่ม ผ้านวมให้สะอาด หอม และแห้งไว สามารถทำตามเคล็ดลับต่างๆ ที่แนะนำได้ เช่น การเลือกน้ำยาซักผ้าที่มีคุณภาพ การตากผ้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และการสะบัดผ้าก่อนการตาก เพื่อป้องกันผ้าจับตัวเป็นก้อน Straits Laundry มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าคุณภาพเยี่ยมสำหรับธุรกิจร้านสะดวกซัก พร้อมให้บริการซักอบผ้าห่ม ผ้านวมได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบาย มั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่สะอาด หอมนาน และแห้งไว

ผ้าห่มควรซักบ่อยแค่ไหน?

ควรซักผ้าห่มทุกๆ 1-3 เดือน เพื่อขจัดฝุ่น เชื้อโรค และไรฝุ่นที่สะสมอยู่

สามารถซักผ้าห่มในเครื่องซักผ้าได้หรือไม่?

ขึ้นอยู่กับประเภทของผ้าห่ม หากเป็นผ้าห่มขนเป็ดหรือไฟเบอร์ ให้ใช้เครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่และเลือกโหมดซักแบบถนอมผ้า

ใช้น้ำร้อนหรือน้ำเย็นซักผ้าห่มดีกว่า?

น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นเหมาะสำหรับผ้าห่มส่วนใหญ่ เพราะช่วยรักษาเนื้อผ้าและลดการหดตัว

ซักผ้าห่มด้วยมือหรือเครื่องซักผ้าดีกว่า?

หากผ้าห่มมีขนาดใหญ่หรือบอบบาง ควรซักมือเพื่อถนอมเส้นใย แต่ถ้าเป็นผ้าห่มที่รองรับการซักเครื่อง ก็สามารถซักได้ตามคำแนะนำบนป้าย

ข้อดีของการซักผ้าห่มที่ร้านสะดวกซัก

เครื่องซักขนาดใหญ่ รองรับผ้าห่มทุกประเภท ไม่ทำให้เนื้อผ้าเสียหาย
อบแห้งเร็ว หมดกังวลเรื่องกลิ่นอับและเชื้อรา
สะอาดถูกสุขอนามัย มีน้ำยาฆ่าเชื้อและซักด้วยน้ำร้อน
สะดวกและประหยัดเวลา ใช้เวลาไม่นานก็ได้ผ้าห่มสะอาดพร้อมใช้