ในยุคที่วิถีชีวิตของผู้คนต่างที่เร่งรีบมาก มีเวลาว่างในการทำงานบ้านน้อยลง บางคนอาจอาศัยอยู่หอพัก คอนโด และมีพื้นที่จำกัดในการซักผ้า ตากผ้า หรือมีเครื่องซักผ้าขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถซักผ้าปูที่นอน หรือตุ๊กตาขนาดใหญ่ได้
|
ร้านสะดวกซักจึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ประหยัดเวลาการทำงานบ้านได้เป็นอย่างดี ก่อนเริ่มลงทุนกับร้านสะดวกซัก ผู้ลงทุนควรศึกษาขั้นตอนและรายละเอียดให้ครบถ้วนว่ามีปัจจัยอะไรที่ควรรู้บ้าง เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างคุ้มค่ามากที่สุด
รู้จักกับประเภทของธุรกิจร้านสะดวกซัก
ถ้าอยากทำธุรกิจร้านสะดวกซัก ควรศึกษาประเภทธุรกิจว่ามีแบบไหนบ้าง โดยในไทยจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. ร้านซักอบรีดทั่วไป
ธุรกิจร้านสะดวกซักแบบร้านซักอบรีดทั่วไป มีตั้งแต่ร้านขนาดเล็กที่เป็นกิจการครอบครัวที่มีแค่บริการซักโดยใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ไปจนถึงขั้นตอนการตาก และรีดเรียบธรรมดา กับร้านซักอบรีดขนาดใหญ่ที่ต้องจ้างพนักงานและมีบริการเพิ่มเติม เช่น บริการรับส่งเสื้อนอกสถานที่ ซ่อมแซมเสื้อผ้า ใช้น้ำยาขจัดคราบเฉพาะจุด ใช้น้ำยาถนอมผ้า หรือรีดถนอมผ้าด้วยไอน้ำ เป็นต้น โดยทั้งสองกิจการมักอยู่ภายในชุมชนหรือหมู่บ้าน และมีค่าบริการตามประเภทเสื้อผ้าและบริการที่ต่างกันออกไป

2. บริการเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ
บริการเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ เป็นแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่มักติดตั้งไว้บริเวณใต้อะพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือคอนโด โดยภายในร้านจะมีเครื่องซักผ้าและที่ปั่นแห้งในตัว ส่วนมากจะมีความจุตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไปเพื่อให้ซักผ้าได้ทุกประเภท การใช้งานเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญลูกค้าจะต้องซักผ้าด้วยตัวเอง ด้วยการหยอดเหรียญเพื่อซักผ้า และลูกค้าก็ต้องนำน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มมาเองด้วย ทั้งนี้จะไม่มีบริการรีดหลังซักเสร็จ เมื่อซักอบเสร็จแล้วก็ต้องนำผ้ากลับมารีดด้วยเอง

3. ร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง
สำหรับร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง เป็นแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไม่ได้มีทำเลอยู่ใต้หอพักหรือคอนโดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีทำเลที่ขยายไปจนถึงพื้นที่ชุมชน ตามซอยต่างๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้บริการได้สะดวก โดยมีเครื่องซักผ้าที่ซักและอบแห้งได้รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาในการตาก มีเครื่องแลกเหรียญสำหรับใช้กับเครื่องซักผ้า มีระบบน้ำร้อน น้ำเย็น พร้อมน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้บริการ นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้ให้นั่งรอ ที่จอดรถสะดวกสบาย รวมถึงบางร้านยังมีพนักงานดูแลผ้าและพับผ้าให้ด้วย

อยากลงทุนร้านสะดวกซัก ควรรู้อะไรบ้าง?
ก่อนเริ่มต้นธุรกิจร้านสะดวกซักควรวางแผนและศึกษารายละเอียดต่างๆ ก่อนการลงทุน รวมถึงต้องมีการ บริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ธุรกิจราบรื่น สร้างรายได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งผู้ลงทุนควรเตรียมพร้อมดังนี้
ศึกษาข้อมูลของร้านสะดวกซักอื่น
เริ่มต้นศึกษาข้อมูลร้านสะดวกซักอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนร้าน พื้นที่ของร้านที่เหมาะสม ดูว่าแต่ละร้านมีบริการรูปแบบไหนบ้าง ทั้งบริการซักและอบแห้งด้วยตัวเอง หรือมีพนักงานที่ร้านคอยช่วยอำนวยความสะดวกหรือไม่ เพื่อหาจุดขายและสร้างจุดแข็งที่ได้เปรียบกว่าร้านสะดวกซักอื่นๆ นั่นเอง
ประเมินกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
เมื่อรู้ว่าแนวทางของธุรกิจสะดวกซักจะไปในทิศทางไหน สิ่งต่อมาคือการประเมินกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการให้บริการ โดยดูว่าฐานลูกค้าคือกลุ่มไหน เช่น กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนทำงาน หรือกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้าน
แล้วกลุ่มคนนั้นๆ ต้องการการบริการแบบไหน เช่น ซักและอบแห้งในตัว มีน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้อัตโนมัติ สามารถซักผ้าชิ้นใหญ่ได้ และชอบบรรยากาศของร้านแบบไหน เช่น มี WiFi มีเก้าอี้นั่งรอ บริการแจ้งเตือนเมื่อซักเสร็จ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เห็นความต้องการของลูกค้าทั้งหมด และกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนขึ้น
ใส่ใจในการเลือกทำเล
การเลือกทำเลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ หากร้านสะดวกซักมีทำเลที่ดีก็จะทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง โดยเลือกพื้นที่ชุมชนที่มีคนอาศัยอย่างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน ทาวน์โฮม อะพาร์ตเมนต์ หอพักนักศึกษา ที่พักตามแหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญร้านต้องมองเห็นง่าย ลูกค้าเดินทางสะดวก และมีที่จอดรถเพียงพอสำหรับลูกค้า
ทำตามกฎหมายและข้อบังคับ
ไม่ว่าจะทำธุรกิจสะดวกซักหรือทำแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก ควรดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ โดยขอใบอนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในการกำจัดน้ำเสีย และคำนึงถึงความปลอดภัย ด้วยการทำประกันภัยร้านเพื่อครอบคลุมความเสียหายจากไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ การถูกชนโดยยานพาหนะ และความเสียหายจากการถูกโจรกรรม
วางแผนจัดการงบประมาณ
ควรวางแผนจัดการงบประมาณการลงทุนร้านสะดวกซักว่าต้องลงทุนเท่าไร และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ซึ่งงบประมาณในการลงทุน มีดังนี้
- ค่าเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า โดยค่าเครื่องซักผ้าราคาประมาณ 100,000 – 200,000 บาทต่อเครื่อง และค่าเครื่องอบผ้าราคาประมาณ 150,000 – 300,000 บาทต่อเครื่อง ขึ้นอยู่กับแบรนด์ ขนาดและสเปกเครื่อง อีกทั้งธุรกิจสะดวกซักบางแบรนด์จะรวมค่าเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในค่าแฟรนไชส์ด้วย
- ค่าเช่าร้าน กรณีที่ไม่ได้เป็นเจ้าของพื้นที่และเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านสะดวกซัก ก็มีค่าเช่าร้านประมาณ 15,000 – 50,000 บาทต่อเดือน โดยขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดพื้นที่ภายในร้าน
- ค่าตกแต่ง ราคาประมาณ 100,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และรูปแบบร้าน อีกทั้งบางร้านจะรวมค่าตกแต่งร้านในค่าแฟรนไชส์ด้วยเช่นกัน
- ค่าระบบน้ำและไฟฟ้า มีค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 – 100,000 บาทต่อเดือน
- ค่าใช้จ่ายรายเดือน ควรมีเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 50,000 – 100,000 บาทต่อเดือน
ทำการตลาดและสร้างจุดเด่นให้กับร้าน
ต้องสร้างจุดเด่นให้แตกต่างกับร้านสะดวกซักอื่นๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ ให้สนใจและอยากเข้ามาใช้บริการ โดยการสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ ชื่อจำง่าย มีสัญลักษณ์ร้านที่คุ้นตา โปรโมตผ่านสื่อออนไลน์ทั้ง Tiktok, Facebook หรือ Instagram เพื่อสร้างภาพจำให้กับลูกค้า ตลอดจนการจัดโปรโมชันพิเศษ เช่น โค้ดส่วนลดซักผ้าหรืออบผ้า มีส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ หรือระบบสะสมแต้มเพื่อแลกรางวัล เป็นต้น
ติดตั้งระบบดูแลความปลอดภัย
เจ้าของกิจการสะดวกซักควรติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้รับความอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแสงสว่างของไฟที่เพียงพอทั้งในร้านและบริเวณรอบๆ ร้าน การติดตั้งกล้องวงจรปิดในร้านและมุมอับสายตา เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ติดตั้งถังดับเพลิงและระบบตรวจจับแก๊สรั่วและตัดแก๊สในร้านให้อัตโนมัติ
วางแผนดูแลเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า
เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าภายในร้านสะดวกซักมีการใช้งานตลอดทั้งวัน เจ้าของกิจการจึงควรวางแผนบำรุงรักษาและหมั่นดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เช่น ล้างถังซักเพื่อทำความสะอาดช่องเติมน้ำยา ดูดฝุ่นจากแผ่นกรองฝุ่นในเครื่องอบผ้า และให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กเป็นประจำ เพื่อยืดอายุการใช้ของอุปกรณ์
ให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ
ควรเตรียมพร้อมเรื่องการบริการและความใส่ใจลูกค้าอยู่เสมอ รับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจากลูกค้าที่มาใช้บริการ หากมีพนักงานคอยให้บริการ ก็หมั่นฝึกอบรมทักษะพนักงานเพื่อให้มีทักษะบริการที่ดี ให้ลูกค้าประทับใจกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจสะดวกซักสามารถสร้างฐานลูกค้า สร้างรายได้ และเติบโตได้อย่างมั่นคงนั่นเอง
สรุป
การเริ่มต้นลงทุนร้านสะดวกซัก ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูล วางแผนการบริหารและการลงทุนให้รอบคอบ เช่น ศึกษาข้อมูลร้านอื่นๆ เลือกทำเลที่เหมาะสม สำรวจกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากร้านอื่น วางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายอุปกรณ์และการบริหารร้าน ทั้งบริการจากพนักงาน การรักษาความสะอาดภายในร้าน ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี และการบำรุงรักษาอุปกรณ์ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ประสบความสำเร็จในระยะยาวและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าใครที่สนใจลงทุนทำร้านสะดวกซัก สามารถเลือกเครื่องซักผ้าที่มีคุณภาพเหมาะสมกับธุรกิจได้จาก Straits Laundry ซึ่งมีเครื่องซักผ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน มีระบบการทำงานที่ครอบคลุม มีการรับประกันและซ่อมบำรุงต่างๆ ตลอดการใช้งาน