Blog

ซักผ้าแล้วเป็นคราบด่าง แก้ได้ง่ายๆ ด้วยของใช้ในบ้าน

ซักผ้าแล้วเป็นคราบด่าง แก้ได้ง่ายๆ ด้วยของใช้ในบ้าน
  • ปัญหาซักผ้าแล้วเป็นคราบเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งจากผงซักฟอกละลายไม่หมด สารที่เคลือบเนื้อผ้าถูกความร้อนสูงขณะรีดผ้า การละเลยการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าและถังซัก
  • ของใช้ในบ้านสามารถแก้ปัญหาคราบด่างที่เกิดขึ้นได้ เช่น น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา สบู่ก้อน ในการทำความสะอาด ขจัดคราบด่างที่เกิดขึ้นและคืนความสดใสให้กับผ้า
  • สำหรับวิธีป้องกันคราบด่างสามารถทำได้ด้วยการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ถังซัก ช่องใส่ผงซักฟอกอย่างสม่ำเสมอ ใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่พอดีและเหมาะสมกับชนิดของผ้า
  • Straits Laundry เครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์ตามการใช้งาน ทั้งใช้ภายในร้านซักรีด ธุรกิจโรงแรมหรือที่พัก พร้อมด้วยฟังก์ชันทันสมัย ช่วยให้เกิดคราบด่างบนผ้าน้อยลง

หลายครอบครัวอาจเคยเจอปัญหาหนักใจหลังซักผ้าเสร็จแล้วพบว่าเสื้อผ้าเกิดคราบด่าง คราบขาว หรือคราบเหลืองติดอยู่บนเนื้อผ้า นอกจากจะทำให้ผ้าดูไม่สะอาดแล้วยังทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเวลาสวมใส่ โดยปัญหานี้มักเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งผงซักฟอกตกค้าง ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไป หรือแม้แต่คราบสกปรกในเครื่องซักผ้าเอง 

บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุของคราบด่างว่าเกิดจากอะไรบ้าง พร้อมวิธีแก้ไขและป้องกันง่ายๆ ด้วยของใช้ภายในบ้านที่หาได้ง่าย เพื่อคืนความสะอาดสดใสให้ผ้าอีกครั้งมาฝากกัน!

สาเหตุของคราบด่างบนเสื้อผ้าหลังซัก

สาเหตุของคราบด่างบนเสื้อผ้าหลังซัก

สาเหตุของคราบด่างบนเสื้อผ้าเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน โดยสามารถแบ่งประเภทของคราบด่างได้ ดังนี้

คราบขาว

คราบด่างขาวที่ติดบนเสื้อผ้ามักเกิดจากการซักผ้าแล้วผงซักฟอกละลายไม่หมด กลายเป็นคราบขาว โดยเฉพาะผงซักฟอกที่มีส่วนผสมของโซดาแอช หรือโซเดียมคาร์บอเนต สารนี้เป็นส่วนผสมสำคัญในผงซักฟอกช่วยปรับสภาพน้ำ เพิ่มความลื่น และเพิ่มค่าความเป็นด่าง แต่เมื่อจับตัวกับแคลเซียมไอออนในน้ำกระด้างจะเกิดเป็นตะกอนหินปูน (Calcium Carbonate) ที่เกาะเป็นคราบขาวบนผ้าได้หากไม่ละลายน้ำให้ดีก่อน 

นอกจากโซดาแอชในผงซักฟอกจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การซักผ้าแล้วเกิดเป็นคราบขาว ยังมีสารประกอบโพลีฟอสเฟตที่ผสมในผงซักฟอกเพื่อแก้ความกระด้างของน้ำ โดยปกติจะกระจายตัวได้ดีในน้ำ แต่หากอยู่ในสภาวะด่างร้อน เช่น การซักด้วยอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน จะเกิดปฏิกิริยากลายเป็นตะกอนขาว โดยเฉพาะเมื่อเจอความชื้นหรือน้ำโดยไม่ผสมให้เข้ากันก่อนก็จะกลายเป็นก้อนเหนียวติดผ้าได้ง่าย รวมถึงน้ำยาซักผ้าที่มีส่วนผสมของสารประกอบฟอสเฟตก็ทำให้มีโอกาสเกิดคราบขาวได้เช่นกัน

คราบเหลือง

คราบเหลืองบนผ้าขาวหรือผ้าสีอ่อนหลังจากซักผ้ามักเกิดจากสารตกค้างแล้วเกิดเป็นคราบเหลือง เช่น สาร BHT (Butyl Hydroxy Toluene) ที่เคลือบเส้นใยผ้า เกลืออะลูมิเนียมจากผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือโรลออน สนิมเหล็กที่เจือปนอยู่ในน้ำประปาและน้ำบาดาลปนเปื้อนในการซักผ้า และการเกิดปฏิกิริยา Thermal Yellowing ที่เกิดจากผ้าได้รับความร้อนสูงขณะรีดผ้า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดคราบเหลืองบนเสื้อผ้า

คราบดำ

คราบดำที่ติดบนเสื้อผ้าหลังซักอาจเกิดจากคราบสกปรกและเชื้อราที่สะสมในถังซักหรือแผ่นกรองในเครื่องซักผ้า โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าที่ใช้งานมานานและไม่ได้มีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เศษผงซักฟอกหรือสิ่งสกปรกเหล่านี้อาจหลุดออกมาเกาะติดผ้าในระหว่างซัก ทำให้เมื่อซักผ้าแล้วเกิดคราบหมอง เป็นคราบดำได้

คราบฝุ่นและคราบอื่นๆ

หากซักผ้าแล้วเป็นคราบฝุ่นอาจมีสาเหตุมาจากการซักที่ไม่ถูกวิธี หรือแม้แต่ตัวเครื่องซักผ้าเองที่อาจมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ก็เป็นได้ นอกจากนี้ การล้างผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มออกไม่หมดจด ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดคราบฝุ่นเหล่านี้บนเนื้อผ้าหลังซักเสร็จ

เคล็ดลับแก้ปัญหาหลังซักผ้าแล้วเป็นคราบด่างด้วยของใช้ในบ้าน มีอะไรบ้าง?

เคล็ดลับแก้ปัญหาหลังซักผ้าแล้วเป็นคราบด่างด้วยของใช้ในบ้าน มีอะไรบ้าง?

เมื่อพบคราบด่างที่เกิดขึ้นหลังซักผ้า สามารถแก้ไข ขจัดคราบเหล่านี้ได้ด้วยของใกล้ตัว ของใช้ภายในบ้าน ดังนี้

ใช้น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูมีกรดอะซิตริกที่ช่วยละลายคราบผงซักฟอกและคราบเหลืองได้ดี วิธีใช้คือแช่ผ้าลงในน้ำผสมน้ำส้มสายชูประมาณครึ่งถ้วยตวงต่อกะละมังน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นซักตามปกติ นอกจากนี้น้ำส้มสายชูยังช่วยปรับสมดุลค่า pH ของน้ำ ลดความกระด้าง และช่วยให้ผ้าขาวสะอาดขึ้น

เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดาไม่ได้มีดีแค่ในครัว แต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแลเสื้อผ้าของคุณด้วย ด้วยคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์และขจัดคราบฝังลึกที่ซักออกยาก เพียงเติมเบกกิ้งโซดาประมาณ ½ ถ้วยตวงลงในเครื่องซักผ้าพร้อมกับผงซักฟอกตามปกติ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะช่วยให้คราบหลุดออกง่ายขึ้น คืนความสะอาดสดใสให้เสื้อผ้าของคุณได้

สบู่ก้อน

เคยไหม? ซักผ้าเสร็จแล้วกลับเจอปัญหาน่าปวดหัวอย่างคราบน้ำยาปรับผ้านุ่มด่างๆ ไม่ต้องกังวลใจไป เพียงนำผ้าบริเวณที่มีคราบไปแช่น้ำสะอาด แล้วใช้สบู่ก้อนถูเบาๆ ตรงรอยด่าง เพื่อช่วยสลายคราบที่ฝังอยู่ จากนั้นก็นำผ้าไปซักใหม่อีกครั้ง เพียงเท่านี้คราบก็จะหายไปได้

ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

นอกจากการใช้ของในบ้านเพื่อขจัดคราบด่างบนผ้าแล้ว การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าก็ช่วยลดการเกิดคราบด่าง คราบฝุ่นและคราบดำบนผ้าได้เช่นกัน โดยควรทำความสะอาดถังซักอย่างน้อยเดือนละครั้ง ใช้โปรแกรมล้างถังซักพร้อมน้ำส้มสายชูหรือน้ำยาล้างถังซักผ้าเฉพาะ เพื่อช่วยขจัดคราบสกปรกในถังซักผ้าได้

ซักผ้าในอุณหภูมิที่เหมาะสม

การดูแลรักษาเสื้อผ้าให้คงความสดใสและปราศจากคราบด่างเริ่มต้นจากการใส่ใจในขั้นตอนการซัก การใช้น้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป หรือการใส่ผงซักฟอกมากเกินความจำเป็น อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดคราบด่างบนเนื้อผ้าได้ ดังนั้น ก่อนเริ่มต้นการซักทุกครั้ง การอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ซักผ้าอย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจปริมาณการใช้ที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการเลือกอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมกับชนิดของผ้า จะช่วยถนอมใยผ้าและป้องกันการเกิดคราบด่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคป้องกันไม่ให้ซักผ้าแล้วเป็นคราบด่าง

เทคนิคป้องกันไม่ให้ซักผ้าแล้วเป็นคราบด่าง

เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดคราบด่างบนผ้า สามารถป้องกันคราบได้หลากหลายวิธีทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้

  • ปรับปริมาณผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้เหมาะสม ใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เหมาะสมกับปริมาณผ้าและความสกปรก หลีกเลี่ยงการเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนผ้าโดยตรง
  • ล้างผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้หมดจด หลักซักผ้าควรล้างผ้าให้สะอาดหมดจด ไม่ให้มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ เพราะจะทำให้เกิดคราบด่างและฝุ่นติดผ้าได้ง่าย
  • ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำ ล้างถังซักและช่องใส่ผงซักฟอกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันคราบสกปรกและเชื้อราสะสมที่เป็นต้นเหตุของคราบดำและคราบฝุ่น
  • เลือกใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีคุณภาพ เลือกที่มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดีและเหมาะกับประเภทของผ้าที่ซัก
หากไม่ต้องการให้เกิดขึ้นซ้ำสามารถป้องกันได้ด้วยการล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

สรุป

ปัญหาซักผ้าแล้วเป็นคราบด่าง คราบเหลือง หรือคราบขาวเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งจากผงซักฟอกละลายไม่หมดทำให้เกิดเป็นคราบขาว คราบเหลืองเกิดจากสารตกค้างเช่น สาร BHT เกลืออะลูมิเนียม สนิมเหล็กในน้ำ และคราบดำที่เกิดจากความสกปรกในเครื่องซักผ้า สามารถแก้ไขคราบเหล่านี้ได้ด้วยของใช้ที่มีอยู่ภายในบ้าน เช่น น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา สบู่ก้อน เป็นต้น 

หากไม่ต้องการให้เกิดขึ้นซ้ำสามารถป้องกันได้ด้วยการล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ล้างถังซักผ้า ใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่เหมาะสมกับปริมาณเนื้อผ้า รวมถึงการล้างผ้าให้สะอาดเพื่อไม่ให้มีสารตกค้างหรือเกิดคราบด่าง

ปัญหาเครื่องซักผ้า หรือการซักผ้าแล้วเป็นคราบดำจะหมดไป หากใช้เครื่องซักผ้าที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือน ธุรกิจร้านซักรีด รวมถึงในโรงแรม ขอแนะนำเครื่องซักผ้าจาก Straits Laundry ที่มีตัวเลือกหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ

cta2