ซักหมอนอย่างไรให้นุ่มฟูเหมือนใหม่ ไม่จับตัวเป็นก้อน

• หมอนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและสิ่งต่างๆ ที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งส่งผลเสียทางสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ หอบหืด สิวและปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้
• วิธีซักหมอนควรเริ่มจากเช็กว่าหมอนมีรอยขาดไหมและอ่านฉลากคำแนะนำในการซักให้เข้าใจก่อนทำการซักหมอน และใช้น้ำยาซักผ้าที่เหมาะกับเนื้อผ้าของหมอน โดยแนะนำใช้เป็นสูตรอ่อนโยน แต่ไม่ควรมีส่วนผสมของสารกัดกร่อนหรือฟอกขาวเพราะอาจทำลายเส้นใยผ้าได้
• เคล็ดลับในการซักหมอนด้วยเครื่องซักผ้าควรเลือกโปรแกรมซักผ้าแบบนุ่มนวล ซักครั้งละ 2 ใบและเพิ่มผ้าขนหนูเข้าไปเพื่อเพิ่มความสมดุลในการปั่นซัก ส่วนการซักด้วยมือเหมาะสำหรับหมอนที่ใช้วัสดุเส้นใยพิเศษ ควรแช่หมอนไว้อย่างน้อย 15 – 30 นาทีก่อนทำการซัก
• เทคนิคทำให้หมอนนุ่มฟูเหมือนใหม่สามารถทำได้ด้วยการนำหมอนไปตากแดดหลังจากซักเสร็จอย่างน้อย 4 – 6 ชั่วโมง เพื่อเป็นฆ่าเชื้อไปในตัว และใช้ลูกเทนนิสในการอบผ้าเพื่อช่วยให้หมอนไม่จับตัวเป็นก้อนได้ดี 
• Straits Laundry เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าที่จะช่วยให้การซักหมอนเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากมีฟังก์ชันที่ครบครัน เหมาะแก่การซักหมอนเพื่อคืนความนุ่มฟูกลับมาอีกครั้ง

ปกติหมอนต้องสัมผัสใบหน้าเป็นเวลานานทุกคืน แต่หลายคนมักมองข้ามการดูแลรักษาหมอนอย่างถูกวิธี ทำให้หมอนกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น ไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ การซักหมอนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นประจำ บทความนี้จะพาไปแนะนำวิธีซักหมอนให้นุ่มฟู สะอาด ปราศจากเชื้อโรค ทั้งการซักด้วยมือและเครื่องซักผ้า พร้อมทั้งเทคนิคซักหมอนให้แห้งสนิทเร็วมาฝากกัน!

เหตุผลในการซักทำความสะอาดหมอน มีอะไรบ้าง?

หมอนที่ใช้นอนทุกคืนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากมายที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด สิ่งที่สะสมในหมอนประกอบด้วยเหงื่อและน้ำมันจากร่างกายที่ซึมผ่านลงสู่หมอนทุกคืน ไรฝุ่นที่เป็นแมลงขนาดเล็กมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าที่เป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้ รวมถึงเชื้อราที่เติบโตได้ดีในสภาพที่อับชื้นในหมอน และแบคทีเรียที่สะสมจากน้ำลาย เหงื่อ ความชื้น 

การนอนบนหมอนที่ไม่สะอาดเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น อาการภูมิแพ้กำเริบ เกิดผื่นแพ้บริเวณใบหน้าและลำคอ สิวและปัญหาผิวอื่นๆ 

เทคนิคซักหมอนให้สะอาดนุ่มฟู

การซักหมอนให้สะอาด ขาวเหมือนใหม่จะไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคนิคดังนี้

1. เตรียมตัวก่อนซักหมอน

เริ่มจากตรวจสอบรอยขาด หรือความเสียหายก่อนนำไปซัก ว่ามีรอยขาดที่ทำให้เส้นใยด้านในสามารถหลุดออกมาในขณะที่ปั่นในเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ หากพบรอยขาดให้รีบซ่อมแซมและตัดเศษด้ายจากการเย็บให้เรียบร้อย จากนั้นเช็กฉลากดูแลบนหมอน รวมถึงวิธีการซัก เพื่อดูว่าหมอนสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ เนื่องจากหมอนแต่ละประเภทต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบวิธีการซักที่เหมาะสมจากฉลากคำแนะนำในการดูแล ตามด้วยกอดหมอนให้แน่นเพื่อบีบลมออกจากหมอนให้ได้มากที่สุดก่อนนำไปซัก

2. เลือกน้ำยาซักผ้าให้เหมาะกับหมอน

แนะนำเลือกน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารฟอกขาวหรือสารเคมีรุนแรง สำหรับหมอนขนเป็ดควรใช้น้ำยาซักผ้าสูตรเฉพาะที่ช่วยถนอมเส้นใยธรรมชาติหรือซักแห้งเท่านั้น ส่วนหมอนใยสังเคราะห์สามารถใช้ผงซักฟอกทั่วไปที่ไม่มีสารกัดกร่อนหรือน้ำยาฟอกขาว เนื่องจากอาจทำลายเส้นใยในหมอน ก่อให้เกิดกลิ่นฉุนและระคายเคืองทางผิวหนังได้

3. วิธีการซักหมอนด้วยเครื่องซักผ้า

ก่อนนำหมอนเข้าเครื่องซักผ้าควรขจัดคราบเบื้องต้นด้วยน้ำยาซักผ้า ชุบลงบนผ้าแล้วซับโดยไม่ขยี้ที่บริเวณรอยเปื้อนเพราะอาจทำให้ยิ่งฝังลึกถึงเส้นใย ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับคราบเปื้อนใหม่ นอกจากนี้ การเลือกโปรแกรมซักและปริมาณผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่เหมาะสมก็สำคัญเช่นกัน

โดยการซักหมอนควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้หมอนเสียทรงหรือหดตัวได้ เลือกรอบการซักที่นุ่มนวล ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นและใช้ผงซักฟอกที่ไม่รุนแรงประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากที่ซักเสร็จแล้วควรปั่นน้ำเปล่าอุณหภูมิ 40 องศาอีก 1 ครั้ง เพื่อเป็นการล้างน้ำยาออกให้หมด โดยวิธีซักหมอนด้วยเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ากับฝาบนจะมีเทคนิคการซักหมอนดังนี้

• เครื่องซักผ้าฝาหน้า ซักหมอนได้ประมาณ 1 – 2 ใบต่อรอบการซัก พร้อมนำผ้าขนหนูสะอาดใส่ไปพร้อมกัน เพื่อให้เกิดสมดุลของการหมุนขณะซัก ทำให้น้ำและน้ำยาซักผ้ากระจายตัวอย่างทั่วถึง
• เครื่องซักผ้าฝาบน สามารถซักหมอนได้ครั้งละ 1 – 2 ใบ และควรใส่ผ้าขนหนูสะอาด เพื่อให้เกิดความสมดุลของเครื่องขณะซักด้วยเช่นกัน

4. วิธีการซักหมอนด้วยมือ

วิธีนี้จะเหมาะสำหรับหมอนที่ผลิตจากเส้นใยพิเศษ หรือไม่สามารถทนต่อแรงหมุนของเครื่องซักผ้าได้ เริ่มจากการสำรวจคราบสกปรก แล้วนำน้ำยาซักผ้ามาแต้มไว้ตามจุดที่มีคราบสกปรก จากนั้นผสมน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่นกับผงซักฟอก หรือใช้น้ำยาซักผ้า แล้วนำหมอนแช่ทิ้งไว้ 15 – 30 นาที แล้วค่อยซักน้ำยาซักผ้าออกให้หมด โดยในขั้นตอนนี้ต้องล้างน้ำเปล่าหลายครั้งเพื่อป้องกันน้ำยาซักผ้าตกค้างบนหมอน

เคล็ดลับทำให้หมอนนุ่มฟูเหมือนใหม่

นอกจากการซักหมอนให้สะอาด ปราศจากเชื้อรา แบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้แล้ว การทำหมอนให้นุ่มฟู น่านอนก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นได้ โดยมีเคล็ดลับดังนี้

ตากหมอนให้แห้งสนิท

หลังจากซักหมอนเสร็จแล้ว ควรตากหมอนในที่ลมโกรกและมีแสงแดดพอเหมาะ เพื่อฆ่าเชื้อราและไรฝุ่น วางหมอนในแนวราบและพลิกกลับด้านเป็นระยะเพื่อให้แห้งอย่างทั่วถึงและไม่เกิดกลิ่นอับอย่างน้อย 4 – 6 ชั่วโมง หากใช้เครื่องอบผ้าให้ตั้งอุณหภูมิต่ำและใส่ลูกเทนนิสลงไปอบพร้อมหมอน เพื่อช่วยให้หมอนนุ่มฟูและแห้งเร็ว ไม่มีกลิ่นอับ ปลอดเชื้อรา และเมื่อนำหมอนมาใช้งานให้ตีหมอนเบาๆ เพื่อกระจายใยด้านในให้ฟูก่อนใช้ 

ป้องกันหมอนจับตัวเป็นก้อนหลังซัก

หากซักหมอนแล้วเป็นก้อนแก้ยังไง? สามารถทำได้ด้วยการหลีกเลี่ยงซักหมอนจำนวนมากเกินไปในครั้งเดียว ใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนและเหมาะกับชนิดของหมอน ไม่ควรใช้น้ำร้อนหรือการอบด้วยอุณหภูมิสูง และใช้ลูกเทนนิสเพื่อช่วยกระจายเส้นใยหมอนให้ฟูขึ้น

สรุป

หมอนที่ใช้นอนในทุกวันเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ ก่อนซักควรตรวจสอบรอยขาดและอ่านฉลากคำแนะนำในการซัก สำหรับการซักหมอนด้วยเครื่องซักผ้าควรเลือกโปรแกรมซักนุ่มนวล ถนอมผ้า ใช้น้ำยาซักสูตรอ่อนโยน และซักครั้งละไม่เกิน 2 ใบพร้อมกับผ้าขนหนูเพื่อให้เกิดความสมดุลขณะปั่นซักผ้า ส่วนการซักหมอนด้วยมือเหมาะสำหรับหมอนที่ผลิตจากเส้นใยพิเศษ หลังซักควรตากในที่มีลมโกรก หรืออบด้วยอุณหภูมิต่ำพร้อมลูกเทนนิสเพื่อให้หมอนฟูนุ่ม
การซักอบทำความสะอาดหมอนจะไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป เมื่อใช้เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าที่มีคุณภาพ เลือกเครื่องซักผ้าจาก Straits Laundry มาพร้อมกับฟังก์ชันหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกโหมดการใช้งานซักผ้า ทั้งยังเหมาะสำหรับการซักผ้าในครัวเรือน ธุรกิจร้านสะดวกซัก และธุรกิจโรงแรมและที่พักอีกด้วย