|
ผ้าไหมที่มีเนื้อผ้าบอบบาง มีคราบฝังแน่น และซักเท่าไรก็ไม่ออก อาจทำให้คุณรู้สึกกังวล แต่ไม่ต้องห่วง! ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยของใช้ภายในบ้าน เพียงแค่เลือกวิธีการที่เหมาะสมกับคราบแต่ละประเภท คราบจะค่อยๆ หายไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายเนื้อผ้าไหมที่บอบบางด้วย

เหตุผลที่ควรใส่ใจกับการทำความสะอาดคราบบนผ้าไหม
เมื่อจัดการกับคราบบนผ้าไหม ควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ ซับเบาๆ หลีกเลี่ยงการถูแรง เพราะอาจทำให้คราบฝังลึกและทำให้เส้นใยไหมเสียหาย เช่นเดียวกับกรณีเสื้อผ้าที่เลอะหมึก ควรใช้แอลกอฮอล์เช็ดเบาๆ ก่อนล้างด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้ง เพื่อไม่ให้เส้นใยผ้าถูกทำลาย

ก่อนซักผ้าไหมต้องรู้! การดูแลผ้าไหมให้ถูกวิธี
แค่รู้จุดสำคัญในการดูแลผ้าไหม ก็สามารถซักได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำลายเนื้อผ้า ดังนี้
- เช็กสีของผ้าไหม ก่อนซักผ้าไหม สามารถทดสอบสีได้ง่ายๆ โดยการใช้ผ้าขาวชุบน้ำหมาดๆ แตะที่จุดเล็กๆ บนผ้า ถ้าสีหลุดออกมา ควรนำไปซักที่ร้านซักแห้งเพื่อไม่ให้ทำลายเนื้อผ้า
- ซักอย่างเบามือ ไม่ควรขยี้หรือบิดผ้าแรง และควรเลือกใช้น้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าบอบบางที่ไม่มีส่วนผสมของสารชีวภาพ
- ไม่ควรใช้เครื่องอบผ้า ห้ามใช้เครื่องอบผ้ากับเสื้อผ้าไหมหรือเครื่องนอนไหม เพราะความร้อนอาจทำให้เส้นใยไหมเสียหาย ควรตากผ้าไหมในที่ร่มหรือวางราบไว้บนโต๊ะ โดยหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ห้ามใช้สารฟอกขาวหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มกับผ้าไหม เพราะสารฟอกขาวทุกแบบจะทำให้สีผ้าไหมซีด และผ้าไหมก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอยู่แล้ว
- ศึกษาคำแนะนำในการดูแล ควรตรวจสอบฉลากการดูแลเสื้อผ้า เพื่อให้ผ้าไหมคงความสวยงามและอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

วิธีซักคราบติดเสื้อผ้าไหมให้ออก แบบง่ายๆ ไม่พึ่งสารเคมี
การเรียนรู้วิธีซักและขจัดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าไหมไม่ยากเลย เพียงแค่เลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับแต่ละประเภทของคราบตามวิธีดังนี้ เราก็สามารถทำได้เองที่บ้านโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำลายเนื้อผ้าไหมแล้ว

วิธีขจัดรอยเปื้อนทั่วไปบนเสื้อผ้าไหมโดยไม่ทำลายเนื้อผ้า
เมื่อพบรอยเปื้อนทั่วไปบนผ้าไหม ควรทำความสะอาดทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้คราบฝังลึกจนติดเสื้อแล้วทำให้ซักไม่ออกและทำลายเนื้อผ้า สามารถจัดการได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ใช้ผ้าขนหนูสีขาวสะอาด กระดาษทิชชู หรือผ้าสะอาดอื่นๆ ซับคราบเบาๆ เพื่อไม่ให้คราบกระจาย
- ผสมน้ำอุ่น 2 – 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูขาว 2 – 3 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน ก่อนใช้ให้ทดสอบสีผ้าในจุดที่ซ่อนเร้นของผ้าไหม เช่น ขอบผ้า เพื่อดูว่าสีไม่ตก
- จุ่มผ้าหรือสำลีลงในน้ำยาที่เตรียมไว้ แล้วค่อยๆ ซับคราบจากด้านหลังของผ้า เพื่อดันคราบออกทางเดิม ห้ามถูแรงเพราะอาจทำให้คราบกระจาย
- ล้างผ้าไหมด้วยน้ำเย็นให้สะอาด แล้วซักตามปกติโดยใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยนสำหรับผ้าไหม
- วางผ้าไหมบนพื้นราบในที่ร่ม ห่างจากแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันสีซีดจางและรักษาเนื้อผ้าให้คงสภาพดี
วิธีขจัดรอยเปื้อนชาและกาแฟบนเสื้อผ้าไหมแบบอ่อนโยน
วิธีขจัดรอยเปื้อนชาหรือกาแฟ บนเสื้อผ้าไหม ควรรีบทำความสะอาดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้คราบฝังลึกและทำลายเนื้อผ้า สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้
- วางผ้าสะอาดทับบนคราบและซับของเหลวส่วนเกินออกโดยไม่ต้องถู
- ชุบผ้าสะอาดด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว 2 – 3 หยด แล้วค่อยๆ ซับคราบเบาๆ
- ล้างบริเวณที่มีคราบด้วยน้ำสะอาดเพื่อกำจัดคราบและน้ำยาทำความสะอาดที่เหลือ
- ใช้ผ้าเนื้อนุ่มซับบริเวณที่ทำความสะอาดให้หมาด

ขั้นตอนง่ายๆ จัดการคราบอาหารซักไม่ออกที่ติดเสื้อผ้าไหม
คราบบางชนิดที่เลอะติดบนเสื้อผ้าไหมอาจทำความสะอาดได้ง่ายด้วยการล้างน้ำอุ่น แต่บางคราบ เช่น คราบนม ช็อกโกแลต ซอสมะเขือเทศ หรือซอสเผ็ดเกาหลี อาจทำความสะอาดยากกว่า ซึ่งทำให้คราบฝังลึกและซักไม่ออก
แนะนำให้เตรียมน้ำยาขจัดคราบเอง โดยผสมน้ำยาซักผ้าเอนไซม์สูตรอเนกประสงค์ 1 ฝา กับน้ำอุ่นในขวดสเปรย์ จากนั้นพ่นน้ำยาลงบนคราบทั้งด้านหน้าและด้านหลังผ้า ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วซักตามปกติด้วยน้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าไหมโดยเฉพาะ แต่ถ้าคราบมีขนาดใหญ่อาจแช่ผ้าทั้งชิ้นในน้ำยานี้ได้นานถึง 1 ชั่วโมง
เคล็ดลับเอาชนะคราบลิปสติกและเครื่องสำอางที่ติดบนเสื้อผ้าไหม
คราบลิปสติกและเครื่องสำอางส่วนใหญ่ที่ติดบนเสื้อผ้าไหมมักมีส่วนผสมของน้ำมันเป็นองค์ประกอบ ทำให้คราบฝังลึกและทำความสะอาดได้ยาก ดังนั้น การกำจัดคราบเหล่านี้ต้องทำอย่างอ่อนโยน ดังนี้
- ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นผสมสบู่ที่มีฤทธิ์อ่อนๆ
- เช็ดคราบเบาๆ หลีกเลี่ยงการถูแรงๆ เพื่อไม่ให้คราบกระจายหรือทำลายเนื้อผ้า
- ซับด้วยผ้าสะอาดให้หมาด เพื่อป้องกันไม่ให้คราบฝังลึก

การขจัดคราบเหงื่อและเลือดติดเสื้อผ้าไหมที่ซักไม่ออก
คราบเหงื่อและเลือดที่ติดบนเสื้อผ้าไหมส่วนใหญ่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ซักไม่ค่อยออก จึงควรใช้สารละลายที่มีเอนไซม์เพื่อขจัดคราบเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเอนไซม์ช่วยย่อยสลายโปรตีนได้ดี ช่วยให้คราบหลุดออกง่ายขึ้นโดยไม่ทำลายเนื้อผ้าไหมที่บอบบาง
วิธีขจัดรอยเปื้อนเหงื่อบนเสื้อผ้าไหม
วิธีกำจัดคราบเหงื่อ แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ แล้วนำไปแต้มบริเวณคราบหรือแช่ผ้าไว้ หากวิธีนี้ไม่ได้ผลให้ลองใช้น้ำยาซักผ้าเอนไซม์ผสมน้ำเพื่อขจัดคราบเหงื่อ ซึ่งจะช่วยให้คราบหลุดได้ดีขึ้น
วิธีขจัดรอยเปื้อนเลือดบนเสื้อผ้าไหม
เมื่อพบคราบเลือดบนผ้าไหม วิธีขจัดรอยเปื้อนเลือดบนเสื้อผ้าไหมให้ใช้น้ำเย็นถึงเย็นจัดล้างคราบ โดยให้น้ำไหลผ่านด้านหลังของคราบเพื่อดันคราบออก น้ำเย็นมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดคราบเลือด หากคราบยังไม่หมดให้ตามด้วยสารละลายเอนไซม์ผสมน้ำเย็น เพื่อช่วยขจัดคราบให้สะอาดหมดจดโดยไม่ทำลายเนื้อผ้าไหม

เคล็ดลับการซักและดูแลผ้าไหมให้คงความสวยเหมือนใหม่
การดูแลผ้าไหมให้คงความสวยงามและอายุการใช้งานยาวนาน ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การซัก การตาก ไปจนถึงการเก็บรักษา โดยมีรายละเอียดดังนี้
การขจัดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าไหมด้วยการซักมือ
การซักมือเป็นวิธีที่ปลอดภัยสำหรับการขจัดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าไหม แต่ก่อนจะเริ่มซักควรตรวจสอบป้ายดูแลเสื้อผ้าก่อน เพราะผ้าไหมบางชนิดอาจต้องซักแห้งเท่านั้น ถ้าไม่แน่ใจ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อรักษาผ้าไหมให้ดีที่สุด
- ก่อนซักผ้าไหมด้วยมือต้องตรวจสอบก่อนว่าผ้าไม่ตกสีและสามารถซักมือได้
- เติมน้ำอุ่นลงในอ่างซักผ้า แล้วใส่น้ำยาซักผ้าตามปริมาณที่แนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
- นำผ้าไหมลงแช่ในน้ำซัก แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำเย็นจนน้ำยาซักผ้าหลุดออกหมด
- บีบเสื้อผ้าไหมให้น้ำออกมาเบาๆ แต่อย่าบิดผ้าไหม เพราะจะทำให้ผ้ายืดและเสียรูปทรง
- วางผ้าไหมลงบนผ้าขนหนูแบนๆ แล้วม้วนผ้าเพื่อดูดซับน้ำส่วนเกิน หลังจากนั้นแผ่ผ้าไหมบนผ้าเช็ดตัวเพื่อทำให้ผ้าแห้ง ห้ามใช้เครื่องอบผ้าเพราะความร้อนอาจทำให้ผ้าไหมหดตัว
การขจัดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าไหมด้วยเครื่องซักผ้า
หากไม่มีเวลาในการซักมือและต้องการกำจัดคราบที่ติดบนเสื้อผ้าไหมแต่ซักไม่ออก ผ้าไหมบางชนิดก็สามารถซักด้วยเครื่องได้ แต่ควรทำตามขั้นตอนดังนี้เพื่อรักษาคุณภาพของผ้าไหม
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าไหมสามารถซักด้วยเครื่องและไม่ตกสี ถ้าป้ายดูแลระบุว่าให้ซักมือหรือซักแห้งเท่านั้น ห้ามใช้เครื่องซักผ้า
- ใส่ผ้าไหมในเครื่องซักผ้าเพียงตัวเดียวหรือกับผ้าที่มีสีและเนื้อผ้าใกล้เคียงกัน ห้ามใส่ผ้าที่หนัก เช่น เสื้อผ้าที่มีกระดุมหรือซิป เพราะอาจทำให้ผ้าไหมเสียหายได้ระหว่างการซัก
- ใส่น้ำยาซักผ้าที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมของสารชีวภาพตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์
- ตั้งเครื่องซักผ้าเป็นโหมดผ้าบอบบาง และเลือกใช้อุณหภูมิของน้ำเย็น
- หลังจากการซักเสร็จแล้วให้วางผ้าไหมแผ่บนผ้าขนหนูสะอาด เพื่อให้แห้งตามธรรมชาติ
การตากเสื้อผ้าไหมโดยไม่ทำให้ผ้าเสียหาย
หลีกเลี่ยงการตากผ้าไหมในแสงแดดจัดเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้สีผ้าไหมซีดจาง ควรตากในที่ร่มหรือที่มีแสงแดดอ่อนๆ แทน
การจัดเก็บเสื้อผ้าไหมอย่างเหมาะสม
การเก็บเสื้อผ้าไหมอย่างถูกวิธีช่วยรักษาผ้าไหมให้อยู่ในสภาพดี ควรแขวนหรือม้วนผ้าไหมเพื่อรักษารูปร่างของผ้าให้ดี หากเลือกม้วนควรเก็บใส่ถุงที่ระบายอากาศได้เพื่อป้องกันความชื้นและคราบสกปรก หลีกเลี่ยงการเก็บผ้าไหมในถุงที่แน่นเกินไปเพราะอาจทำให้ผ้ายับหรือเสียหายได้

สรุป
การดูแลผ้าไหมต้องใส่ใจเป็นพิเศษ หากเกิดคราบควรทำความสะอาดทันทีด้วยวิธีที่เหมาะสม เพื่อป้องกันคราบติดเสื้อซักไม่ออกและรักษาผ้าไหมให้อยู่ในสภาพดี สำหรับร้านสะดวกซักที่สนใจเครื่องซักผ้าคุณภาพดี Straits Laundry มีเครื่องซักผ้าที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจร้านสะดวกซัก ช่วยซักผ้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมดูแลเสื้อผ้าไหมของลูกค้าให้สะอาดและรักษาคุณภาพผ้าได้อย่างดี
FAQ: เคล็ดลับขจัดคราบฝังแน่นบนเสื้อผ้าด้วยของใช้ในบ้าน
หากเสื้อผ้าของคุณมีคราบสกปรกที่ซักไม่ออก ไม่ต้องกังวล! คุณสามารถใช้ของใช้ในบ้านมาขจัดคราบได้ง่ายๆ มาดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขจัดคราบด้วยวิธีธรรมชาติและประหยัด
1. คราบน้ำมันจากอาหาร ใช้อะไรขจัดออกดี?
โรยแป้งข้าวโพด เบกกิ้งโซดา หรือแป้งเด็กลงบนคราบ ทิ้งไว้ 15-20 นาทีให้ดูดซับน้ำมัน จากนั้นใช้แปรงขัดเบาๆ แล้วซักตามปกติ
2. คราบกาแฟและชา ต้องกำจัดอย่างไร?
ผสม น้ำส้มสายชู หรือ น้ำมะนาว กับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 จากนั้นใช้ผ้าซับลงบนคราบ ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วซักตามปกติ
3. คราบเหงื่อและคราบเหลืองบนเสื้อขาว ทำให้กลับมาขาวได้อย่างไร?
ผสม เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ กับ น้ำมะนาว หรือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ พอให้เป็นเนื้อข้นๆ ทาลงบนคราบ ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วซักออก
4. คราบหมึกปากกา ลบออกยังไง?
ใช้ นมสด หรือ แอลกอฮอล์ล้างแผล ชุบสำลีแล้วซับลงบนคราบ จากนั้นนำไปซักด้วยน้ำเย็น ห้ามใช้น้ำร้อน เพราะจะทำให้คราบติดแน่นขึ้น
5. คราบลิปสติก และเครื่องสำอาง ต้องกำจัดอย่างไร?
ใช้ สเปรย์ฉีดผม ฉีดลงบนคราบ ทิ้งไว้สักครู่แล้วใช้ผ้าแห้งซับออก จากนั้นซักด้วยน้ำอุ่นและผงซักฟอก