Blog

เจาะลึกข้อดี-ข้อเสียของเครื่องอบผ้าก่อนตัดสินใจซื้อ ฉบับเข้าใจง่าย!

เจาะลึกข้อดี-ข้อเสียของเครื่องอบผ้าก่อนตัดสินใจซื้อ ฉบับเข้าใจง่าย!
  • เครื่องอบผ้ามีหลายประเภทที่แตกต่างกัน ได้แก่ เครื่องอบผ้าแบบท่อลมร้อน เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น เครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน และเครื่องอบผ้าแบบพกพา
  • เครื่องอบผ้าช่วยประหยัดเวลาในการตากผ้าโดยเฉพาะในฤดูฝนหรือพื้นที่ที่มีอากาศชื้น ทำให้เสื้อผ้าแห้งเร็วและนุ่มกว่าการตากแดด อีกทั้งยังช่วยลดรอยยับและกำจัดไรฝุ่นหรือแบคทีเรีย
  • เครื่องอบผ้าใช้พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างสูงทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้น อีกทั้งความร้อนจากการอบอาจทำให้เสื้อผ้าบางประเภทหดหรือเสียรูปทรง และเส้นใยผ้าเสื่อมสภาพเร็วกว่าการตากแดดธรรมชาติ
  • ก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องอบผ้า ควรพิจารณาขนาดและความจุให้เหมาะกับปริมาณเสื้อผ้า รวมถึงพื้นที่ติดตั้งและระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ควรเปรียบเทียบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ฟังก์ชันการทำงาน และราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณด้วย

ทุกวันนี้นอกจากเครื่องซักผ้าที่เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกของคนไม่มีเวลาซักผ้าแล้ว ก็ยังมีเครื่องอบผ้าที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่ต้องการให้ผ้าให้แห้งไวกว่าเดิม แต่หลายคนก็อาจมีข้อสงสัยว่าเครื่องอบผ้ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง และคุ้มค่าต่อการซื้อมาใช้ หรือการลงทุนแค่ไหน ในบทความนี้จะพาไปหาคำตอบทุกเรื่อง 

เครื่องอบผ้ามีกี่แบบ? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจ

เครื่องอบผ้ามีกี่แบบ? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจ

ก่อนจะไปรู้ว่าเครื่องอบผ้ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง อีกหนึ่งในสิ่งที่ต้องเข้าใจคือประเภทของเครื่องอบผ้า ซึ่งในปัจจุบันจะมีการแบ่งออกตามประเภทการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยหลักๆ จะมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน 

1. เครื่องอบผ้าแบบท่อลมร้อน (Vented)

เครื่องอบผ้าแบบท่อลมร้อน (Vented) ทำงานโดยใช้ท่อลมร้อนสำหรับเป่าเสื้อผ้า มีจุดเด่นคือช่วยให้เสื้อผ้าแห้งได้ไว เพราะใช้ความร้อนสูงในการอบผ้า มีราคาไม่แพง และสามารถดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย โดยตัวท่อลมร้อนและท่อไอน้ำจะถูกต่อออกไปยังนอกตึกหรืออาคารผ่านการเจาะผนัง เพื่อเป็นการระบายอากาศจากด้านใน เหมาะกับการติดตั้งในบ้านหรืออาคารที่สามารถเอื้อต่อการเจาะหรือต่อเติมผนังได้ 

2. เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น (Condenser)

เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น (Condenser) เป็นเครื่องอบผ้าที่ทำงานคล้ายกับแบบท่อลมร้อนคือใช้ความร้อนเป่าไปที่เสื้อผ้า เพียงแต่ไม่ต้องเจาะผนังเพื่อระบายอากาศ แต่จะเป็นการระบายความชื้นไปไว้ที่ภาชนะเก็บน้ำ เมื่อปริมาณน้ำเต็มเครื่องแล้วจะมีเสียงแจ้งเตือนเพื่อนำภาชนะออกไปเพื่อระบายน้ำทิ้ง ข้อดีของเครื่องอบผ้าประเภทนี้คือติดตั้งง่ายและค่อนข้างได้รับความนิยม แต่ข้อเสียคือการอบประเภทนี้เสื้อผ้าจะแห้งไม่สนิทเมื่อเทียบกับเครื่องอบผ้าแบบท่อลมร้อน

3. เครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump)

เครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump) เป็นเครื่องอบผ้าที่ทำหน้าที่คล้ายแบบควบแน่นที่ไม่ต้องเจาะผนังระบายอากาศ แต่เครื่องอบร้อนระบบปั๊มจะทำงานโดยใช้ลมร้อนดูดความชื้นออกจากเสื้อผ้า และเปลี่ยนอากาศจากภายนอกเข้ามา ช่วยให้อากาศภายในร้อนขึ้นจนเกิดการควบแน่นเกิดเป็นไอน้ำ จุดเด่นของเครื่องอบผ้าแบบนี้คือช่วยให้ผ้าแห้งไว ถนอมเนื้อผ้า ประหยัดพลังงาน หมดปัญหาสำหรับใครที่กลัวว่าเครื่องอบผ้ากินไฟไหม แต่ข้อเสียคือดูแลรักษายาก และมีราคาค่อนข้างสูง

4. เครื่องอบผ้าแบบพกพา (Portable Venting)

เครื่องอบผ้าแบบพกพา (Portable Venting) เป็นเครื่องอบผ้าที่ใช้แผ่นฟอยส์ มีลักษณะเหมือนถุงกระโจม มีขนาดเล็กกว่าแบบอื่นๆ โดยรูปแบบการทำงานจะเป็นการต่อท่อจากตัวเครื่องเข้าไปภายในกระโจมเพื่อทำการอบผ้าที่อยู่ด้านใน จุดเด่นของเครื่องอบผ้าประเภทนี้คือช่วยให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย จัดเก็บง่าย แต่จะไม่สามารถทำความร้อนได้เท่ากับเครื่องอบผ้าแบบอื่นๆ ทำให้ผ้าแห้งช้ากว่า

ข้อดีของเครื่องอบผ้า

ข้อดีของเครื่องอบผ้า

หลังจากที่รู้จักประเภทต่างๆ ของเครื่องอบผ้าแล้ว ส่วนต่อมาที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ เครื่องอบผ้าดีอย่างไร ทำไมถึงน่าลงทุนทำธุรกิจ ซึ่งข้อดีของเครื่องอบผ้ามีดังนี้

  1. ประหยัดเวลา หมดปัญหาเวลาตากผ้าแล้วต้องง้อแดด ที่ต้องใช้เวลาตากผ้าค่อนข้างนาน หรือวัดดวงกับวันไหนที่ฝนตก โดยการใช้เครื่องอบผ้าจะช่วยให้สามารถตากผ้าภายในระยะเวลาที่ควบคุมได้ ทำให้ผ้าแห้งได้ในระยะเวลาเพียง 1 – 3 ชั่วโมง 
  2. ลดปัญหาฝุ่นติดผ้า การตากผ้าในพื้นที่โล่งแจ้งมักทำให้ฝุ่นติดผ้า ยิ่งใครที่พักอาศัยอยู่ในเขตที่มีมลภาวะ อาจส่งผลเสียทำให้เมื่อใส่เสื้อผ้าแล้วเกิดอาการคัน ในขณะที่การใช้เครื่องอบผ้าจะมีคุณสมบัติช่วยดูดกรองฝุ่นให้หลุดออกจากเนื้อผ้าได้ 
  3. ช่วยให้ผ้าหอมนุ่ม การตากผ้าตากแดดเป็นเวลานานๆ แสงแดดจะทำให้ผ้ากรอบ รวมถึงทำลายความหอมของผ้า ในขณะที่การใช้เครื่องอบผ้าจะสามารถควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่ทำลายเนื้อผ้าและทำให้ได้ผ้าที่หอมนุ่มมากขึ้น
  4. ประหยัดพื้นที่ สำหรับบ้านไหนที่สมาชิกในครอบครัวเยอะ มีเสื้อผ้าเยอะตามไปด้วย ทำให้ใช้พื้นที่ในการตากที่เยอะตามไปด้วย โดยเฉพาะคนที่ทำธุรกิจซักแห้งที่ต้องดูแลเสื้อผ้าเป็นจำนวนมาก การใช้เครื่องอบผ้าจะช่วยประหยัดพื้นที่ตากผ้า บางรุ่นช่วยประหยัดพื้นที่ด้วยการวางบนเครื่องซักผ้าได้เลย

ข้อเสียของเครื่องอบผ้า

นอกจากข้อดีต่างๆ ที่เป็นจุดเด่นของเครื่องอบผ้าแล้ว ในอีกด้านหนึ่งตัวเครื่องอบผ้าเองก็มีจุดด้อยอยู่เช่นกัน โดยข้อเสียของเครื่องอบผ้า มีดังนี้

  1. เนื้อผ้าโทรมง่าย เมื่อเสื้อผ้าเข้าเครื่องอบผ้าบ่อยเกินไป อาจทำให้อุณหภูมิที่ร้อนจัดของเครื่องอบผ้าทำลายเนื้อผ้าทำให้โทรมได้
  2. เกิดคราบติดบนเสื้อผ้า หากเสื้อผ้าตัวไหนที่ซักไม่สะอาดแล้วนำมาเข้าเครื่องอบผ้า ความร้อนของเครื่องจะทำให้คราบบางชนิดติดกับผิวเสื้อผ้าจนเป็นคราบฝังแน่น
  3. มีเสียงดังเมื่อใช้งาน เมื่อใช้งานเครื่องอบผ้าในแต่ละครั้งจะเกิดเสียงดัง ทำให้เกิดการรบกวนต่อบริเวณโดยรอบได้
  4. มีค่าใช้จ่ายที่สูง การใช้เครื่องอบผ้าไม่ได้เพียงแค่ซื้อครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องมีการบำรุงดูแลหลังจากใช้งาน นอกจากนี้ยังมีในส่วนของค่าไฟที่เพิ่มขึ้นตามการใช้งานอีกด้วย
เช็กลิสต์! ก่อนตัดสินซื้อเครื่องอบผ้าต้องดูอะไรบ้าง?

เช็กลิสต์! ก่อนตัดสินซื้อเครื่องอบผ้าต้องดูอะไรบ้าง?

หลังจากได้รู้ข้อดี-ข้อเสียของเครื่องอบผ้าไปแล้ว ก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่องอบผ้าหรือทำธุรกิจซักแห้ง หนึ่งในสิ่งที่ต้องคำนึงคือเครื่องอบผ้าจำเป็นไหม หรือคุ้มค่าต่อการลงทุนมากแค่ไหน ในส่วนนี้เราจะพาไปดูข้อสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องอบผ้า ดังนี้ 

1. ตอบโจทย์ความจำเป็น

ก่อนจะซื้อเครื่องอบผ้านั้นควรพิจารณาถึงปัจจัยความจำเป็นต่างๆ เช่น บริเวณที่เราอาศัยอยู่นั้นมีร้านที่ให้บริการอบผ้าหรือไม่ หากมีแล้ว การซื้อเครื่องอบผ้า หรือการลงทุนบริการอบผ้าในบริเวณดังกล่าวอาจไม่จำเป็น รวมถึงดูว่าที่พักอาศัยนั้นสามารถเจาะหรือติดตั้งเครื่องอบผ้าประเภทที่ต้องเจาะผนังอาคารได้หรือไม่ 

2. งบประมาณ

นอกจากการประเมินความจำเป็นของเครื่องอบผ้าแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการตั้งและคำนวณงบประมาณไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะช่วยให้การตัดสินใจซื้อเครื่องอบผ้าอยู่ในราคาที่เหมาะสม เนื่องจากการลงทุนกับเครื่องอบผ้านั้น นอกจากค่าเครื่องแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าบำรุงรักษา และค่าไฟ ที่อาจตามมาในภายหลัง

3. ขนาดตู้อบผ้า

การเลือกซื้อเครื่องอบผ้าควรเลือกขนาดที่มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน เช่น ดูจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว ความถี่ในการใช้งาน หากต้องการเปิดธุรกิจอบผ้าอาจเลือกซื้อเครื่องอบผ้าที่มีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการใช้งาน นอกจากนี้ เครื่องอบผ้าขนาดใหญ่ยังช่วยประหยัดพลังงานดีกว่าการใช้เครื่องขนาดเล็กที่ใช้บ่อยครั้ง 

4. ขนาดพื้นที่จัดตั้ง

พื้นที่คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องอบผ้า เพราะหากกรณีที่มีพื้นที่จำกัด ควรเลือกเครื่องอบผ้าที่สะดวกต่อการติดตั้ง เช่น เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น หรือเครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน แต่หากมีพื้นที่กว้างติดตั้งบนพื้นที่ของตัวเอง ก็สามารถเลือกเครื่องอบผ้าแบบท่อลมร้อนเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าไฟได้ดี นอกจากนี้ ควรพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการใช้งาน เช่น วางบริเวณเดียวกับเครื่องซักผ้า เป็นต้น

5. โปรแกรมการใช้งาน

เครื่องอบผ้าในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกจุดในการช่วยพิจารณาเลือกซื้อเครื่องอบผ้าให้ตอบโจทย์กับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งาน เช่น เทคโนโลยีสามารถอบผ้าแห้งได้เร็วและยังถนอมเนื้อผ้า หรือระบบตั้งเวลา ปรับอุณหภูมิได้ตามความเหมาะสม เป็นต้น 

6. ประกันและบริการหลังการขาย

เครื่องอบผ้าก็เหมือนกับเครื่องซักผ้า คือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีการรับประกัน ดังนั้น การเลือกซื้อเครื่องอบผ้าอย่าลืมพิจารณาบริการหลังการขาย หากเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพจะมีบริการดูแลหลังการขายระยะยาว ช่วยให้สบายใจหากเครื่องเกิดความเสียหาย หรือปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาในภายหลัง

cta2

สรุป

เครื่องอบผ้ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง? จะเห็นได้ว่าเครื่องอบผ้าอาจมีความจำเป็นน้อยกว่าเครื่องซักผ้า แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับคนที่เร่งรีบ ต้องใช้เสื้อผ้าด่วน และยังเป็นการทำให้ผ้าแห้งโดยไม่ทำลายเนื้อผ้าอีกด้วย แต่ขณะเดียวกันก็อาจมีข้อเสียในด้านการติดตั้งและค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่บ้าง 
ส่วนใครที่อยากลงทุนกับธุรกิจซักแห้ง ลงทุนกับเครื่องอบผ้า ขอแนะนำ Straits Laundry ที่มีเครื่องอบผ้าให้คุณได้เลือกตามความต้องการและตอบโจทย์ต่อธุรกิจของคุณมากที่สุด

FAQ: เจาะลึกข้อดี-ข้อเสียของเครื่องอบผ้าก่อนตัดสินใจซื้อ ฉบับเข้าใจง่าย!

เครื่องอบผ้าเป็นตัวช่วยที่สะดวกสำหรับคนที่ต้องการให้ผ้าแห้งเร็ว ไม่ต้องง้อแดด แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ หลายคนอาจสงสัยว่าคุ้มค่าหรือไม่ มาดูข้อดี-ข้อเสียของเครื่องอบผ้า พร้อมคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อย

1. เครื่องอบผ้ามีกี่ประเภท และแบบไหนเหมาะกับการใช้งาน?

เครื่องอบผ้าหลักๆ มี 3 ประเภท

  • เครื่องอบผ้าระบบระบายอากาศ (Vented Dryer) – ต้องติดตั้งท่อระบายอากาศ ราคาถูกกว่า แต่กินไฟมากกว่า
  • เครื่องอบผ้าระบบควบแน่น (Condenser Dryer) – ไม่มีท่อระบายอากาศ เก็บไอน้ำในถัง ค่อนข้างประหยัดพื้นที่
  • เครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump Dryer) – ประหยัดพลังงานมากที่สุด แต่ราคาสูงกว่า

เลือกแบบไหนดี?

  • หากต้องการประหยัดงบ แบบระบายอากาศ เหมาะสม
  • หากไม่มีพื้นที่ระบายอากาศ แบบควบแน่น จะสะดวกกว่า
  • หากต้องการประหยัดไฟระยะยาว แบบปั๊มความร้อน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

2. เครื่องอบผ้ามีข้อดีอะไรบ้าง?

แห้งเร็ว ไม่ต้องง้อแดด – อบผ้าให้แห้งได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง แม้ในวันที่ฝนตก
ลดปัญหาฝุ่นและเชื้อรา – ไม่ต้องตากผ้าในที่อับชื้น ลดโอกาสเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ
ผ้านุ่มขึ้น ไม่กระด้าง – อบผ้าทำให้เส้นใยนุ่มขึ้น โดยเฉพาะผ้าขนหนู
ช่วยถนอมเสื้อผ้าบางประเภท – ลดการซีดของสีเสื้อผ้าเมื่อโดนแดดจัด
สะดวกสบาย เหมาะกับชีวิตเร่งรีบ – ซักอบเสร็จในวันเดียว ไม่ต้องรอให้แห้งข้ามวัน


3. เครื่องอบผ้าประหยัดไฟได้จริงหรือไม่?

ขึ้นอยู่กับ ประเภทของเครื่องอบผ้า

  • เครื่องอบผ้าแบบปั๊มความร้อน ประหยัดไฟมากกว่าแบบอื่นๆ (ลดการใช้พลังงานได้ถึง 50%)
  • ควรเลือกเครื่องที่มี ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และมีเซ็นเซอร์วัดความชื้นเพื่อหยุดทำงานเมื่อผ้าแห้ง

4. ควรซื้อเครื่องอบผ้าหรือใช้บริการร้านสะดวกซักดีกว่า?

🔹 เหมาะกับการซื้อเครื่องอบผ้าเอง

  • หากมีเสื้อผ้าต้องอบเป็นประจำ
  • มีพื้นที่วางเครื่อง และสามารถดูแลทำความสะอาดได้

🔹 เหมาะกับการใช้บริการร้านสะดวกซัก

  • หากใช้ไม่บ่อย และต้องการประหยัดค่าไฟ
  • มีผ้าชิ้นใหญ่ เช่น ผ้านวม ที่ต้องอบเป็นครั้งคราว