Blog

ไขข้อสงสัย เครื่องซักผ้ากินไฟเท่าไร พร้อมวิธีประหยัดค่าไฟเครื่องซักผ้า

ไขข้อสงสัย เครื่องซักผ้ากินไฟเท่าไร พร้อมวิธีประหยัดค่าไฟเครื่องซักผ้า
  • เครื่องซักผ้ามีการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกันตามรุ่นและฟังก์ชัน โดยเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามักใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องฝาบน โดยทั่วไปจะใช้ไฟฟ้าประมาณ 0.5 – 2 kWh ต่อการซักหนึ่งรอบ
  • การคำนวณการใช้ไฟฟ้าเครื่องซักผ้าคือการคำนวณกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ที่ใช้ในการซัก 1 ครั้ง โดยทั่วไปเครื่องซักผ้าใช้ไฟฟ้าประมาณ 0.5 – 1.5 kWh ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องและโปรแกรมการซัก
  • การประหยัดค่าไฟในการใช้เครื่องซักผ้าทำได้โดยเลือกเครื่องที่ประหยัดพลังงาน ใช้โปรแกรมซักน้ำเย็น และซักผ้าในปริมาณที่พอเหมาะ พร้อมทั้งเลือกโปรแกรมที่ใช้เวลาน้อยและทำความสะอาดเครื่องอย่างสม่ำเสมอ
  • Straits Laundry เหมาะกับธุรกิจซักรีดที่ต้องการความง่ายและรวดเร็ว ด้วยเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาทำงาน ทำให้ตอบสนองลูกค้าได้ทันที

เมื่อพูดถึงการใช้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า หลายคนอาจจะมีคำถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะในยุคที่ค่าไฟฟ้ากำลังปรับตัวสูงขึ้น ทำให้หลายคนต้องการหาวิธีประหยัดค่าไฟในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า อุปกรณ์ประจำบ้านที่ใช้งานอยู่ทุกวัน 

หากคุณกำลังสงสัยว่าเครื่องซักผ้ากินไฟเท่าไรหรือเครื่องอบผ้ากินไฟเท่าไร? บทความนี้จะพาไปหาคำตอบ พร้อมทั้งแนะนำวิธีคำนวณการใช้ไฟและวิธีประหยัดค่าไฟให้คุ้มค่าที่สุด!

เครื่องซักผ้ากินไฟเท่าไร?

เครื่องซักผ้าหลายๆ รุ่นมีความแตกต่างกันในการใช้ไฟฟ้า โดยเครื่องซักผ้าที่มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย เช่น เครื่องซักผ้าที่มีระบบการซักอัตโนมัติ หรือเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า (Front-load) ที่ใช้พลังงานน้อยกว่าการซักผ้าแบบฝาบน (Top-load) จะมีการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกัน

เครื่องซักผ้าทั่วไปในปัจจุบันจะใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 0.5 – 2 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ต่อการซักหนึ่งรอบ หากเราคำนวณในระยะยาว เช่น ใช้งานเครื่องซักผ้าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง การใช้ไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 6 – 24 kWh ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานและขนาดของเครื่องซักผ้าที่เลือก

นอกจากนี้ เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานมากขึ้นก็ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้ โดยสามารถเลือกซื้อเครื่องที่มีการรับรองมาตรฐานประหยัดพลังงาน เช่น การใช้พลังงานต่ำหรือเครื่องที่มีฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 

เครื่องซักผ้ากินไฟกี่แอมป์?

นอกจากกำลังไฟฟ้าในหน่วยวัตต์แล้ว บางครั้งเราอาจต้องการทราบค่ากระแสไฟฟ้าที่เครื่องซักผ้าใช้ในหน่วยแอมแปร์ โดยเฉพาะเมื่อต้องคำนวณว่าวงจรไฟฟ้าในบ้านรองรับได้เท่าไร

โดยทั่วไปเครื่องซักผ้าจะใช้กระแสไฟฟ้า ดังนี้

  • เครื่องซักผ้าขนาดเล็ก – กลาง ประมาณ 5 – 10 แอมป์
  • เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ ประมาณ 10 – 15 แอมป์
  • เครื่องซักผ้าที่มีระบบอบผ้าในตัว ประมาณ 15 – 20 แอมป์

สามารถคำนวณค่ากระแสไฟฟ้า (แอมป์) ได้จากสูตร ดังนี้

กระแสไฟฟ้า (แอมป์) = กำลังไฟฟ้า (วัตต์) ÷ แรงดันไฟฟ้า (โวลต์)

ตัวอย่างการคำนวณ สำหรับประเทศไทยที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ หากเครื่องซักผ้ามีกำลังไฟ 700 วัตต์ จะใช้กระแสไฟฟ้าประมาณ 3.18 แอมป์ (700 ÷ 220 = 3.18)

วิธีคำนวณค่าไฟเครื่องซักผ้า

วิธีคำนวณค่าไฟเครื่องซักผ้า

ซักผ้า 1 ครั้งกินไฟกี่บาท? มาดูการคำนวณค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการซัก 1 ครั้ง สามารถทำได้โดยใช้สูตรดังนี้ 

ค่าไฟฟ้า (บาท) = กำลังไฟฟ้า (กิโลวัตต์) × ระยะเวลาที่ใช้ (ชั่วโมง) × อัตราค่าไฟต่อหน่วย (บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง)

ตัวอย่างการคำนวณ

  • เครื่องซักผ้ามีกำลังไฟฟ้า 600 วัตต์ (0.6 กิโลวัตต์)
  • ใช้เวลาซัก 1 รอบ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  • อัตราค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง)

ค่าไฟฟ้า = 0.6 กิโลวัตต์ × 1 ชั่วโมง × 4 บาท = 2.4 บาท

ดังนั้น การซักผ้า 1 ครั้ง ด้วยเครื่องซักผ้าจะเสียค่าไฟประมาณ 2.4 บาท

วิธีคำนวณค่าไฟเครื่องอบผ้า

วิธีคำนวณค่าไฟเครื่องอบผ้า

เครื่องอบผ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานมากกว่าเครื่องซักผ้าหลายเท่า เนื่องจากต้องสร้างความร้อนในการอบผ้าให้แห้ง ไปดูกันว่าเครื่องอบผ้ากินไฟเท่าไร

โดยทั่วไปเครื่องอบผ้าจะใช้กระแสไฟฟ้า ดังนี้

  • เครื่องอบผ้าขนาดเล็ก ประมาณ 1,800 – 2,500 วัตต์
  • เครื่องอบผ้าขนาดกลาง ประมาณ 2,500 – 4,000 วัตต์
  • เครื่องอบผ้าขนาดใหญ่ ประมาณ 4,000 – 6,000 วัตต์

**การคำนวณค่าไฟฟ้าจากการใช้เครื่องอบผ้าใช้หลักการเดียวกับเครื่องซักผ้า

ตัวอย่างการคำนวณ

  • เครื่องอบผ้ามีกำลังไฟฟ้า 3,000 วัตต์ (3 กิโลวัตต์)
  • ใช้เวลาอบผ้า 1 รอบ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  • อัตราค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย

ค่าไฟฟ้า = 3 กิโลวัตต์ × 1 ชั่วโมง × 4 บาท = 12 บาท

ดังนั้น การอบผ้า 1 ครั้งด้วยเครื่องอบผ้าจะเสียค่าไฟประมาณ 12 บาท ซึ่งมากกว่าการซักผ้าประมาณ 4 – 6 เท่า

วิธีประหยัดค่าไฟเครื่องซักผ้า

2: วิธีประหยัดค่าไฟเครื่องซักผ้า

การใช้งานเครื่องซักผ้าให้ประหยัดไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเลือกใช้เทคนิคดังนี้ 

  • เลือกเครื่องซักผ้าที่ประหยัดพลังงาน เลือกเครื่องที่มีฉลากประหยัดพลังงานและฟังก์ชันการซักที่สามารถปรับได้ตามปริมาณผ้า
  • ซักผ้าด้วยน้ำเย็น การใช้โปรแกรมซักผ้าด้วยน้ำเย็นจะช่วยลดการใช้พลังงานในการอุ่นน้ำ
  • ซักผ้าในปริมาณที่พอเหมาะ การใส่ผ้าในเครื่องซักผ้าไม่ควรเกินความจุของเครื่อง เพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้น
  • เลือกโปรแกรมซักที่ใช้เวลาน้อย เลือกโปรแกรมซักที่สั้นและไม่ใช้เวลานานเกินไป จะช่วยประหยัดไฟฟ้าได้
  • ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าจะช่วยให้เครื่องทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีประหยัดค่าไฟเครื่องอบผ้า

วิธีประหยัดค่าไฟเครื่องอบผ้า

เครื่องอบผ้าอาจใช้พลังงานมากในการทำงาน แต่สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้ 

  • ใช้เครื่องอบผ้าที่มีฟังก์ชันประหยัดพลังงาน เครื่องอบผ้ารุ่นใหม่ๆ มักจะมีฟังก์ชันประหยัดพลังงานหรือระบบเซนเซอร์ที่ช่วยลดเวลาในการอบผ้า
  • อบผ้าในปริมาณที่เหมาะสม อย่าใส่ผ้าในเครื่องอบผ้ามากเกินไป เพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้น
  • ใช้โปรแกรมอบผ้าที่เหมาะสมกับประเภทของผ้า เลือกโปรแกรมอบผ้าตามประเภทของผ้า เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไมโครไฟเบอร์ เพื่อให้การอบผ้าใช้เวลาและพลังงานน้อยลง
  • ซักผ้าล่วงหน้าให้แห้งพอประมาณ หากสามารถซักผ้าให้แห้งพอหมาดๆ ก่อนอบด้วยเครื่องอบผ้า จะช่วยลดเวลาในการอบและประหยัดพลังงานมากขึ้น
  • ทำความสะอาดเครื่องอบผ้า เช่นเดียวกับเครื่องซักผ้า การทำความสะอาดเครื่องอบผ้าจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
cta2

สรุป

การคำนวณการใช้ไฟฟ้าของเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าไม่ยากอย่างที่คิด โดยสามารถประหยัดค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเลือกเครื่องที่ประหยัดพลังงาน การเลือกใช้โปรแกรมที่เหมาะสม และการดูแลรักษาเครื่องให้ดี ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้แล้วคุณจะสามารถลดค่าไฟจากการซักผ้าและอบผ้าได้อย่างแน่นอน!

Straits Laundry เหมาะกับธุรกิจหลายประเภท เช่น ธุรกิจซักรีด โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร คาเฟ่ หอพักหรืออพาร์ตเมนต์ รวมถึงธุรกิจที่ต้องการซักผ้าปริมาณมาก ด้วยประสิทธิภาพการซักผ้าและอบผ้าที่รวดเร็วและมีคุณภาพสูง ทำให้ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการการดูแลเสื้อผ้าอย่างมืออาชีพ