- เริ่มต้นธุรกิจร้านซักรีด ควรวางแผนให้ชัดเจนเริ่มจากเลือกทำเลที่ตั้งในย่านที่มีคนพักอาศัยจำนวนมาก คำนึงถึงกลุ่มฐานลูกค้า และต้องวางแผนงบประมาณให้ถี่ถ้วน
- การเลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีข้อขัดข้องน้อยจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า จนเกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำ
- การพัฒนาและปรับปรุงร้านสามารถทำได้ด้วยการทำโปรโมชันดึงดูดลูกค้า ใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมตร้านให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีบริการอื่นๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น บริการรับส่งผ้า
หากจะให้พูดถึงการลงทุนทำธุรกิจที่ได้ Passive Income อย่างประสิทธิภาพ ลงทุนครั้งเดียวสามารถสร้างกำไรอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ การวางแผนธุรกิจร้านซักรีดหรือลงทุนแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าที่เป็นการลงทุนกับการซักรีดแบบหยอดเหรียญที่มักได้รับความนิยมในย่านชุมชน ที่พักอาศัย
แต่การจะเริ่มลงทุนในอะไรสักอย่าง การศึกษาความรู้ความเข้าใจก่อนเริ่มลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำ เคล็ดลับการเริ่มต้นแผนธุรกิจร้านซักรีดให้ได้กำไรแบบมืออาชีพ จะมีอะไรบ้างไปติดตามอ่านกันได้เลย

1. วางแผนธุรกิจร้านซักรีดให้ชัดเจน
ก่อนจะเริ่มวางแผนทำธุรกิจเปิดร้านซักรีดเล็กๆ ควรมีการวางแผนให้ชัดเจน โดยอาจเริ่มจากสิ่งสำคัญที่สุดของการลงทุนทำธุรกิจ คือ ทำเลที่ตั้ง ควรเลือกทำเลย่านที่คนพักอาศัย เช่น บริเวณใกล้กับคอนโด หรือหอพัก หรือมีการเดินทางสัญจรง่าย ไม่ยุ่งยาก
การวางแผนธุรกิจร้านซักรีด ควรจะต้องสำรวจกลุ่มฐานลูกค้าของทำเลที่เราจะให้บริการว่าเป็นกลุ่มประมาณไหน อายุวัยเท่าไร เช่น กลุ่มคนที่เป็นนักศึกษา กลุ่มคนวัยทำงาน เป็นต้น เพื่อช่วยให้สามารถออกแบบร้านซักรีดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการวางแผนธุรกิจร้านซักรีดให้เกิดประสิทธิภาพ คือ การวางแผนงบประมาณที่ต้องใช้ให้เป็นอย่างดี ควรศึกษาวางแผนว่าเปิดร้านซักรีดลงทุน เท่าไหร่ โดยงบประมาณที่ใช้จะครอบคลุมตั้งแต่ ค่าเช่าสถานที่ ค่ารีโนเวต ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายด้านการตลาดต่างๆ ดังนั้นผู้ที่จะลงทุนควรคำนวณวางแผนให้ดีว่าจะใช้เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าจำนวนกี่เครื่อง และศึกษาตัวอย่างบัญชีรายรับรายจ่ายของร้าน ซักรีด เพื่อควบคุมงบประมาณไม่ให้บานปลายจนเกินไป
2. เลือกอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
การจะวางแผนธุรกิจร้านซักรีดให้มีคนเข้ามาใช้บริการ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเลือกอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและมีคุณภาพ เช่น การเลือกเครื่องซักผ้าแบรนด์ที่มีมาตรฐาน สามารถซักผ้าได้สะอาด และมีโอกาสเกิดความขัดข้องน้อย เพราะหากเครื่องซักผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ในร้านมีคุณภาพ ก็จะส่งผลต่อความประทับใจของผู้ใช้งาน ทำให้อยากใช้ซ้ำและเกิดการพูดถึงในวงกว้าง
ทั้งนี้การเลือกอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมนั้น ก็มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างคนดูแลเครื่อง เป็นต้น ดังนั้นควรประเมินรายจ่ายต่าง ๆ ในส่วนนี้ให้ดี ว่าอุปกรณ์ที่ใช้นั้นมีค่าใช้จ่ายที่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้หรือไม่

3. เลือกใช้โปรโมชันดึงดูดลูกค้า
ไม่ว่าร้านซักอบรีด จะจัดเป็นธุรกิจประเภทใด โปรโมชัน คือ สิ่งที่ช่วยดึงดูดให้เกิดความรู้สึกอยากใช้บริการ ธุรกิจซักรีดก็เช่นกัน ควรมีการจัดโปรโมชันเพื่อส่งเสริมร้าน ดึงดูดลูกค้า เนื่องจากคนที่ใช้บริการร้านซักรีดมีทุกกลุ่มอาชีพ ทุกวัย โดยเฉพาะร้านซักรีดที่ตั้งบริเวณหอพัก หรือใกล้มหาวิทยาลัย ที่เป็นกลุ่มคนรายได้ไม่สูงมาก แรงจูงใจซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ก็อาจเลือกจากโปรโมชันที่คุ้มค่าเป็นหลัก
โดยทางร้านอาจทำการจัดโปรโมชันอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าใหม่ และรักษาลูกค้าเก่า เช่น โปรโมชันส่วนลดตามเทศกาล/วันสำคัญ การจัดทำบัตรสะสมแต้มเพื่อรับส่วนลด หรือจัดทำราคาเป็นแพ็กเกจ เป็นต้น ทั้งนี้ควรเลือกออกแบบโปรโมชันให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายของร้าน เพื่อให้ได้กำไรอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4. ใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมตร้าน
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำธุรกิจซักรีดในปัจจุบัน สื่อโซเชียล มีบทบาทสำคัญต่อการทำโปรโมตสินค้าและบริการอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการตลาดที่งบประมาณไม่สูงแล้ว ยังสามารถเพิ่มการมองเห็น เพิ่มการเข้าถึงได้มากกว่าการทำโปรโมตแบบออฟไลน์ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการสื่อสารผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม ให้เลือกใช้ทั้งแบบวิดีโอ รูปภาพ หรือบทความ
ทั้งนี้การทำโซเชียล ควรทำการศึกษากลุ่มเป้าหมายหลักของเราให้ดีว่ากลุ่มลูกค้าของเรานั้นสนใจสื่อแบบไหน เช่น หากเป็นนักเรียนนักศึกษาอาจเน้นโปรโมตร้านผ่าน Instagram หรือ TikTok ที่ได้รับความนิยมจากคนกลุ่มนี้ หากเป็นกลุ่มวัยกลางคน คนวัยทำงาน อาจเลือกโปรโมตผ่านช่องทาง Facebook หรือเว็บไซต์ และผลิตเนื้อหาที่จริงจังขึ้นเพื่อเข้าถึงคนกลุ่มนี้ เป็นต้น

5. ให้บริการรับ-ส่งเสื้อผ้า
นอกจากคุณภาพของเครื่องซักรีดและโปรโมชันที่น่าดึงดูดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเพิ่มยอดขายยอดการใช้บริการให้กับร้านซักรีดคือ บริการรับ-ส่งเสื้อผ้า ซึ่งเป็นการต่อยอดบริการของร้านให้สามารถดูแลครอบคลุมแบบครบวงจร
โดยเฉพาะการตอบโจทย์ต่อคนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น แต่ไม่สะดวกที่จะมารับเสื้อผ้าด้วยตัวเอง การรับ-ส่งเสื้อผ้า จะช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสเข้าถึงคนที่ชีวิตยุ่ง มีเวลาน้อย ได้ดียิ่งขึ้น เพราะคนในปัจจุบันต้องการความเร็ว และสบายมากที่สุด ดังนั้นบริการรับ-ส่งเสื้อผ้า จึงเป็นอีกบริการที่ช่วยเพิ่มการเติบโตให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี
6. ร่วมมือกับธุรกิจในพื้นที่
นอกจากการมีบริการที่ครอบคลุมหลากหลายแล้ว อีกสิ่งที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับการเปิดร้านซักรีดในหมู่บ้านให้ดีขึ้น คือ การร่วมมือกับธุรกิจในพื้นที่ เพราะแต่ละทำเลที่ตั้งล้วนแต่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป เช่น บางทำเลอาจใกล้วินมอเตอร์ไซค์ บางทำเลอาจใกล้กับร้านขายของชำ หรือบางทำเลอาจอยู่ใกล้สถานศึกษา เป็นต้น
โดยในทางธุรกิจอาจใช้วิธีการจัดโปรโมชันร่วมกับธุรกิจอื่น หรือใช้วิธีแบ่งรายได้ในส่วนที่ต้องการความร่วมมือ เช่น การใช้บริการรับ-ส่งเสื้อผ้าผ่านวินมอเตอร์ไซค์ โดยอาจแบ่งเปอร์เซ็นต์รายได้ต่อรอบให้ หรือโปรโมชันซักรีดกับทางร้านสามารถนำใบเสร็จไปขอซื้อผงซักฟอกจากร้านค้าในราคาพิเศษ เป็นต้น

7. ให้บริการแบบสมัครสมาชิก
เพราะบริการซักรีดเป็นธุรกิจที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเก่าที่เข้ามาใช้บริการซ้ำ ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิม และใช้บริการบ่อยๆ คือ ระบบการสมัครสมาชิก เพื่อให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิกได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ จากทางร้าน
สำหรับโปรโมชันสมาชิกทางร้านซักรีด สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น หากลูกค้าซักเสื้อผ้าครบจำนวนครั้งที่กำหนด สามารถรับสิทธิ์ซักผ้าห่มฟรี หรือส่วนลด 5% ต่อการใช้งานในแต่ละครั้ง ยิ่งโปรโมชันสมาชิกมีความดึงดูด ตอบโจทย์ความต้องการ ยิ่งทำให้ลูกค้าเกิดความภักดีต่อแบรนด์ และอยากกลับมาใช้บริการซ้ำเรื่อยๆ
8. ใช้รีวิวและคำแนะนำจากลูกค้า
สิ่งหนึ่งที่การทำธุรกิจขาดไม่ได้ คือ การรีวิวหรือคำแนะนำจากลูกค้า ยิ่งธุรกิจไหนที่มีคะแนนการรีวิวสูง ได้รับคำชมที่ดีก็มีโอกาสเติบโต และมีโอกาสที่คนจะใช้บริการมากขึ้น ตรงกันข้ามธุรกิจไหนที่มีรีวิวน้อย หรือมีรีวิวไปในทางลบก็มีโอกาสประสบความล้มเหลวได้เช่นกัน
โดยผู้ประกอบการอาจให้ทางลูกค้าที่ใช้บริการทำการรีวิวลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ เพื่อแลกรับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งบการตลาดจ้างอินฟลูเอ็นเซอร์รีวิวร้าน เพื่อเพิ่มโอกาสการมองเห็นมากขึ้น หรือทางร้านสามารถตรวจสอบรีวิวของทางร้านผ่านแฮชแท็กต่างๆ หากรีวิวไหนประทับใจก็สามารถนำมาใช้ในสื่อโปรโมตทางร้านได้เช่นกัน

สรุป
การคิดแผนธุรกิจร้านซักรีด คือ กลยุทธ์ตัวแปรสำคัญในการทำธุรกิจซักรีดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เพราะการซักรีดถือว่าเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยหลายปัจจัยมาประกอบกัน เช่น การหาทำเลที่ตั้ง การร่วมมือกับธุรกิจพื้นที่ การใช้โซเชียลประชาสัมพันธ์ และโปรโมตให้เหมาะสม ทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน
หากต้องการลงทุนธุรกิจเปิดร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ขอแนะนำ Straits Laundry บริการช่วยติดตั้งเครื่องซักรีดที่มีรับประกันคุณภาพ และพร้อมดูแลแบบครบ จบ ในที่เดียว
FAQ: เคล็ดลับ! เริ่มต้นแผนธุรกิจร้านซักรีดเล็กๆ ให้ทำกำไรได้อย่างมืออาชีพ
การเปิดร้านซักรีดอาจดูเหมือนธุรกิจขนาดเล็ก แต่หากวางแผนให้ดี ก็สามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน! มาดูคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจร้านซักรีด พร้อมเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ
1. เริ่มต้นธุรกิจร้านซักรีดต้องเตรียมอะไรบ้าง?
🔹 เงินลงทุน – ใช้สำหรับซื้ออุปกรณ์ เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เตารีด โต๊ะรีดผ้า และค่าเช่าสถานที่
🔹 แผนธุรกิจ – วิเคราะห์กลุ่มลูกค้า ทำเล และแผนการตลาด
🔹 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ – ตรวจสอบข้อกำหนดด้านกฎหมาย เช่น การจดทะเบียนพาณิชย์
🔹 การตั้งราคาบริการ – ควรตั้งราคาที่แข่งขันได้ และคำนึงถึงต้นทุน
2. เลือกทำเลเปิดร้านซักรีดอย่างไรให้ลูกค้าเยอะ?
✅ อยู่ใกล้กลุ่มเป้าหมาย – เช่น คอนโด อพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือย่านสำนักงาน
✅ มีที่จอดรถสะดวก – เพื่อให้ลูกค้าสามารถมารับ-ส่งเสื้อผ้าได้ง่าย
✅ มีการเดินผ่านของคนเยอะ – เช่น ใกล้ตลาด หรือห้างสรรพสินค้า
✅ มีการแข่งขันที่เหมาะสม – ศึกษาคู่แข่งว่ามีร้านซักรีดอื่นใกล้เคียงมากน้อยแค่ไหน
3. เคล็ดลับบริหารร้านซักรีดให้มีกำไร?
💡 ควบคุมต้นทุน – เลือกใช้น้ำยาซักผ้าและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ แต่ประหยัดต้นทุน
💡 ให้บริการที่ดี – ซักสะอาด ตรงเวลา มีการบรรจุเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
💡 ใช้โปรแกรมสะสมแต้ม – เพื่อสร้างลูกค้าประจำ เช่น ซักครบ 10 ครั้ง ฟรี 1 ครั้ง
💡 ใช้โซเชียลมีเดียโปรโมทร้าน – เช่น Facebook, LINE OA เพื่อเพิ่มลูกค้าใหม่
💡 มีบริการเสริม – เช่น รับ-ส่งผ้าถึงบ้าน หรือบริการรีดผ้าเพิ่ม
4. เครื่องซักผ้าสำหรับร้านซักรีด ควรเลือกแบบไหนดี?
🔸 เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม – ทนทาน ซักได้ปริมาณมาก รองรับการใช้งานหนัก
🔸 เครื่องซักผ้าฝาหน้า – ถนอมผ้า และประหยัดน้ำกว่าฝาบน
🔸 เครื่องอบผ้า – ช่วยให้เสื้อผ้าแห้งเร็ว แม้ในช่วงฤดูฝน
🔸 เตารีดไอน้ำอุตสาหกรรม – รีดง่ายและรวดเร็วกว่าเตารีดทั่วไป
📌 หากต้องการใช้เครื่องซักอบคุณภาพสูงแบบธุรกิจมืออาชีพ แนะนำให้ดูเพิ่มเติมที่ 👉 Straits Laundry
5. ร้านซักรีดขนาดเล็ก คุ้มค่ากับการลงทุนไหม?
✔ ถ้าทำเลดี และมีลูกค้าประจำ – สามารถทำกำไรได้อย่างมั่นคง
✔ ต้นทุนไม่สูงเท่าร้านสะดวกซัก – ใช้เครื่องซักผ้าแบบบ้านทั่วไปได้ในช่วงเริ่มต้น
✔ สร้างรายได้เสริม – หากมีพื้นที่จำกัด สามารถเริ่มต้นแบบบริการตามบ้านได้